KOOL : บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
3M/2565 (ม.ค. - มี.ค. 2565)
ภาพรวมธุรกิจ

KOOL ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายให้บริการงานเช่าผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็น พัดลมไอน้ำ และพัดลมอุตสาหกรรม ภายใต้ตราสินค้า "MASTERKOOL" รวมถึงออกแบบ ติดตั้งระบบระบายความร้อน และระบบโอโซน อีกทั้งยังดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และที่ปรึกษาทางด้านการเงิน

Highlight ที่น่าสนใจของบริษัท

บริษัทได้เข้าซื้อกิจการในกลุ่มบริษัท แคปปิตอล ลิ้งค์ โฮลดิ้ง จำกัด ในมูลค่า 61.28 ล้านบาท และเข้าซื้อหุ้นบริษัท แคปปิตอล ลิ้งค์ อุดรธานี จำกัด ในมูลค่า 102.21 ล้านบาท ชำระด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท

โครงสร้างรายได้ตามประเภทธุรกิจ
รายได้จากการขาย และบริการ 95.18% รายได้ดอกเบี้ยรับ 3.8% รายได้อื่น 1.02%
ข้อมูลหลักทรัพย์
mai / SERVICE
ราคาปิด KOOL mai index 1.00 0.50 0.00 708.00 597.33 486.67 376.00 1-4-64 7-7-64 5-10-64 5-1-65 31-3-65
ณ วันที่ 31/03/65 KOOL SERVICE mai
P/E (เท่า) - 35.62 59.24
P/BV (เท่า) 2.69 4.29 3.67
Dividend yield (%) - 1.37 1.18
31/03/65 31/12/64 31/12/63
Market Cap (ลบ.) 1,080.00 857.00 408.00
ราคา (บาท/หุ้น) 0.90 1.00 0.85
P/E (เท่า) - - 73.89
P/BV (เท่า) 2.69 2.48 1.97
CG Report:
Company Rating:
สรุปผลการดำเนินงานและคำอธิบายงวด 3M/2565
3M65 3M64 2564 2563
งบกำไรขาดทุน (ลบ.)
รายได้ 247.20 219.20 545.63 733.46
ค่าใช้จ่าย 230.03 223.95 558.28 725.95
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 15.73 -9.26 -21.37 -3.52
งบแสดงฐานะทางการเงิน (ลบ.)
สินทรัพย์ 1,052.62 580.09 630.26 523.22
หนี้สิน 327.71 398.88 228.13 332.75
ส่วนผู้ถือหุ้น 724.91 181.21 402.13 190.47
งบกระแสเงินสด (ลบ.)
กิจกรรมดำเนินงาน -158.76 -37.81 -10.33 1.16
กิจกรรมลงทุน 3.77 -0.01 -119.46 -13.89
กิจกรรมจัดหาเงิน 190.52 56.46 167.18 7.21
อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ
กำไรต่อหุ้น (บาท) 0.01 -0.02 -0.03 -0.01
อัตรากำไรขั้นต้น (%) 17.74 14.81 21.50 21.96
อัตรากำไรสุทธิ (%) 6.36 -4.22 -3.92 -0.48
D/E Ratio (เท่า) 0.45 2.20 0.57 1.75
ROE (%) 0.80 -0.76 -7.21 -1.81
ROA (%) 1.54 1.60 -2.19 1.57
สรุปผลการดำเนินงาน

ภาพรวมดำเนินงานบริษัทมีกำไรเบ็ดเสร็จสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 เท่ากับ 15.73 ล้านบาท 

พัฒนาการที่สำคัญ

ปี 2545-2553 3 มิ.ย.2545 เริ่มจัดตั้งบริษัทด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท

ปี 2554  ก่อตั้งบริษัท อินโนว์ กรีน โซลูชั่น จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ถือหุ้นร้อยละ 49.99 เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โอโซน 

ปี 2556 ได้ซื้อหุ้น Ingreen เพิ่มจากผู้ถือหุ้นเดิม จึงมีสัดส่วนการถือหุ้นใน ร้อยละ 99.98 และทำให้ Ingreen มีสถานะเป็นบริษัทย่อย

ปี 2557 แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้เป็นหุ้นละ 0.25 บาท และเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 120 ล้านบาท

 ปี 2558  23 กันยายน 2558 บริษัท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และ เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ ด้วยรหัสหลักทรัพย์ KOOL 

ปี 2564 ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วเป็น 180,000,000 บาท จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น และได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วเป็น 214,250,000 บาท จากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด 

ปี 2565 ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วเป็น 300,000,000 บาท จากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด

แผนธุรกิจ

บริษัทได้มีการปรับตัวต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 มาก่อนหน้านี้เป็นระยะเวลาพอสมควร และบริหารจัดการตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งการเจรจาส่งออกไปยังประเทศที่ได้รับผลกระทบน้อยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19การเน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อสร้างโอกาสในตลาดใหม่มาทดแทนรายได้จากการขายผ่านห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (Moderntrade) ที่ตกต่ำลงอย่างมาก รวมทั้งการเพิ่มฐานลูกค้ารายองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสในธุรกิจประหยัดพลังงาน และแก้ไขปัญหาอากาศร้อน  โดยเป็นการดำเนินธุรกิจผ่านบริษัท อินโนว์ กรีน โซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย รวมทั้งการเข้าควบรวมกิจการของกลุ่มแคปปิตอล ลิ้งค์ ในช่วงที่ผ่านมาก็เป็นส่วนที่สำคัญในการลดความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจได้


แผนการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน

วัตถุประสงค์และเป้าหมายของบริษัทฯ กำหนดขึ้นในทิศทางเดียวกับวิสัยทัศน์และพันธกิจ ซึ่งส่วนหนึ่งได้ระบุข้อความ “ครอบครัวมาสเตอร์คูล” ไว้นั้น ตามความหมายที่ได้สื่อสารในองค์กร หมายรวมถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน เช่น ผู้ถือหุ้น คู่ค้า พนักงาน ฯลฯ

การสะท้อนผลการดำเนินงานว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายหรือไม่นั้น บริษัทฯ ได้ดำเนินการในทั้งภาพใหญ่ซึ่งเป็นการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้ในการปฏิบัติงานตั้งแต่ต้นทางจนถึงระบบการบัญชี ซึ่งปัจจุบันเป็น Microsoft Dynamic AX และบริษัทได้กำหนดการสื่อสารระหว่างหน่วยงาน และสาขาของกลุ่มบริษัทซึ่งอยู่ต่างพื้นที่ ทั้งสำนักงานใหญ่/ศูนย์บริการ สำนักงานขาย สำนักงานธุรกิจงานเช่า คลังสินค้า และโรงงาน ด้วยระบบ E-meeting ผ่านระบบเครือข่ายของบริษัทฯ เป็นหลัก

แนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงที่สำคัญ

ความเสี่ยงจากความผันผวนของรายได้ระหว่างปี

เนื่องจากผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อลดความร้อนและให้อากาศเย็น รายได้จากการขายจึงผันผวนตามฤดูกาล บริษัทจึงมีมาตรการรองรับความเสี่ยง โดยมีการนำเสนอระบบประหยัดพลังงานเพื่อใช้ตามโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อใช้ทดแทนเครื่องปรับอากาศ การขายสินค้าที่เป็นงานโครงการขนาดใหญ่ได้มากขึ้น บริษัทฯ จะมีรายได้จากงานบริการซึ่งไม่ขึ้นกับฤดูกาลมากขึ้นด้วย อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ เครื่องฟอกอากาศ เครื่องฆ่าเชื้อโรค รวมถึงการเข้าควบรวมกิจการของกลุ่มแคปปิตอล ลิ้งค์ ในช่วงที่ผ่านมาก็เป็นส่วนที่สำคัญในการลดความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจได้

รางวัลและความสำเร็จที่ผ่านมาของบริษัท
  • BEST PRODUCT 2002
  • BEST THAILAND OWNED BRAND 2008
  • BAI PO BUSINESS AWARD 2009 ธนาคารไทยพาณิชย์ร่วมกับศศินทร์
  • รางวัลพัฒนาการโลจิสติกส์ดีเด่น ประจำปี 2556 กระทรวอุตสาหกรรม
  • ตราสัญลักษณ์คุณภาพ ตั้งแต่ปี 2557 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
  • รางวัลผู้พิชิตยอดเขานวัตกรรม ประจำปี 2558 สวทช.
  • รางวัลองค์กรนวัตกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี 2559 สำนักงานนวตกรรมแห่งชาติ
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ณ วันที่ 25/03/2565
นาย เกรียงไกร ศิระวณิชการ (13.25%)
นาย นพชัย วีระมาน (10.46%)
MR. FUNG MENG HOI (6.42%)
นาย สุนทร ศรีปรัชญาอนันต์ (2.84%)
นาย นิติ ถาวร (1.32%)
อื่น ๆ (65.71%)
ช่องทางการติดต่อบริษัท
http://www.masterkool.com
comsec@masterkool.com
0-2953-8800
เลขที่ 12/16-17 เทศบาลสงเคราะห์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. 10900
ข้อมูลการซื้อขายอื่น ๆ : https://www.settrade.com/C04_01_stock_quote_p1.jsp?txtSymbol=KOOL
หมายเหตุ : เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทจดทะเบียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนแก่ผู้ลงทุนเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น บริษัทจดทะเบียนไม่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนใด ๆ ในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน โดยก่อนการตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและควรขอรับคำปรึกษาจากผู้ประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายหรือสูญหายจากการนำข้อมูลที่ปรากฏนี้ไปใช้ในทุกกรณี และบริษัทจดทะเบียนสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า รวมทั้งห้ามไม่ให้ผู้ใดนำเอกสารหรือข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ไปทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากบริษัทจดทะเบียนก่อน หากผู้ลงทุนมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลของบริษัท สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากรายงานหรือสารสนเทศที่บริษัทได้เผยแพร่ผ่านช่องทางของสำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และ/หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย