บริษัทประกอบธุรกิจหลักเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้า Apple ทั้งคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ประเภท iOS และอุปกรณ์เสริมต่างๆ รวมทั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าอื่นๆ ที่สามารถนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ Apple เป็นหลัก เพื่อที่จะรองรับความต้องการของลูกค้าได้ครบวงจร ทั้งกลุ่มลูกค้ารายย่อยทั่วไป ลูกค้าสถานศึกษา บริษัทเอกชนและรัฐวิสาหกิจ นอกจากนั้น บริษัทยังมีศูนย์บริการลูกค้าตามมาตรฐาน Apple ที่ได้รับแต่งตั้งเป็น Authorized Service Provider ภายใต้ชื่อ iCenter
2565 | 2564 | 2563 | 2562 |
---|
รายได้ | 5,615.76 | 5,573.26 | 3,634.97 | 3,609.91 |
ค่าใช้จ่าย | 5,449.32 | 5,408.01 | 3,537.23 | 3,515.17 |
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ | 126.57 | 125.56 | 73.30 | 75.70 |
สินทรัพย์ | 1,052.95 | 791.78 | 864.15 | 728.70 |
หนี้สิน | 503.10 | 299.73 | 451.88 | 349.73 |
ส่วนผู้ถือหุ้น | 549.85 | 492.05 | 412.27 | 378.97 |
กิจกรรมดำเนินงาน | 148.92 | 304.72 | -119.92 | 74.04 |
กิจกรรมลงทุน | -67.94 | -42.38 | 91.88 | -58.41 |
กิจกรรมจัดหาเงิน | -130.14 | -207.86 | 36.11 | -24.01 |
กำไรต่อหุ้น (บาท) | 0.32 | 0.31 | 0.18 | 0.19 |
อัตรากำไรขั้นต้น (%) | 10.62 | 9.70 | 10.97 | 11.23 |
อัตรากำไรสุทธิ (%) | 2.25 | 2.25 | 2.02 | 2.10 |
D/E Ratio (เท่า) | 0.91 | 0.61 | 1.10 | 0.92 |
ROE (%) | 24.30 | 27.77 | 18.53 | 21.39 |
ROA (%) | 18.05 | 19.96 | 12.27 | 14.24 |
ในปี 2566 บริษัทฯ ยังคงมีเป้าหมายในการเพิ่มยอดขายจากการขยายสาขา 5-10 สาขา ทั้งจากการเปิดร้าน U•Store, AIS Shop, AIS Telewiz และ A-Store รวมทั้งการขายสินค้าและบริการ Solutions ด้านการศึกษา ทั้ง Apple และ Non-Apple ให้แก่ลูกค้าองค์กรและสถานศึกษา นอกจากนั้น ยังมีแผนพัฒนาช่องทางการขายออนไลน์เพื่อนําเสนอสินค้าและบริการ ที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ตลอดจนพัฒนาช่องทาง Omni Channel โดยผสมผสานช่องทางการสื่อสารท้ังออฟไลน์และ ออนไลน์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า
รวมทั้งบริษัทฯ มีแผนที่จะสร้างโอกาสสำหรับการเพิ่มสินค้า และบริการใหม่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายและสร้าง Gross Profit ให้สูงขึ้น
ในไตรมาสที่ 4 ปี 2565 บริษัทฯ เปิดสาขาเพิ่ม 3 สาขา ได้แก่ UStore 2 สาขา และ Astore 1 สาขา บริษัทฯ จึงมีสาขารวมกันทั้งสิ้น 81 สาขา (iStudio = 4, iBeat = 5, Mobi = 5, U•Store = 23, iCenter = 7, iSolution = 1, ASP/Telewiz/Buddy = 26 และ AStore = 10 สาขา)
รายได้จากการขายและบริการ
รายได้จากการขายและการบริการสำหรับไตรมาส 4/2565 มีจำนวน 1,635.43 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 358.39 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 18.0 จากการปรับขึ้นของราคาขายสินค้า เนื่องจากการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและการขาดแคลนของชิ้นส่วนในการผลิตสินค้า ส่งผลให้ iPhone Series 14 ที่เริ่มขายในช่วงกลางเดือนกันยายน มีราคาเปิดตัวที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปีอื่น ๆ ทำให้ลูกค้าตัดสินใจชะลอการสั่งซื้อหรือเลือกสินค้ารุ่นอื่นที่มีราคาย่อมเยาว์กว่าแทน นอกจากนั้น ยังมีการปรับขึ้นราคาขายของสินค้าประเภท iPad เช่นกัน รวมถึงรุ่นที่เป็น N-1 อีกด้วย
กำไรขั้นต้น
กำไรขั้นต้น สำหรับไตรมาส 4/2565 มีจำนวน 176.01 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 14.76 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7.7 โดยอัตรากำไรขั้นต้นสำหรับไตรมาส 4/2565 เท่ากับร้อยละ 10.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปี 2564 เท่ากับร้อยละ 9.6 สาเหตุที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเนื่องจากสัดส่วนการขายของสินค้ากลุ่ม Non-Apple เพิ่มขึ้น ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้มีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างสูง รวมถึงการจัดการสินค้าคงเหลือที่มีประสิทธิภาพ โดยมีการติดตามอัตราการขายและรายการสินค้าที่เคลื่อนไหวช้าเเยกตามผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อจัดเตรียมกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างเหมาะสม
ในไตรมาส 4/2565 บริษัทฯ เปิดสาขาเพิ่ม 3 สาขา ได้แก่ UStore 2 สาขา และ Astore 1 สาขา
• ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงผู้จําหน่ายสินค้ารายใหญ่ จากการเป็นตัวแทน
จําหน่ายสินค้า Apple โดยบริษัทฯ มีความตั้งใจร่วมมือ และสนับสนุน
การปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญากับ Apple โดยเคร่งครัด
• ความเสี่ยงจากการล้าสมัยของสินค้า เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทาง
เทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว บริษัทฯ จึงต้องมีการบริหารสต็อคสินค้า คัด
เลือกสินค้าและสั่งซื้อสินค้าในจํานวนที่เหมาะสม โดยมีการบริหารคลัง
สินค้าอย่างมีประสิทธิภาพและมีการจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อ
ระบายสินค้าที่มีการหมุนเวียนช้า
• ความเสี่ยงจากการแข่งขัน จากการที่ตลาด ICT เติบโตอย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะสินค้าสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตพีซีรุนใหม่ ๆ ออกมาอย่าง
สม่ำเสมอเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด บริษัทฯ จึงพยายามรักษา
ฐานลูกค้าที่มีอยู่เดิมให้เกิด Customer Royalty เช่น การให้ส่วนลดแก่
ลูกค้าในการซือสินค้าชิ่นถัดไป มีการสื่อสารประชาสัมพันธ์กับลูกค้า
ผ่านช่องทาง Social Network ต่าง ๆ และมีการจัดกิจกรรมในการให้
ความรู้ในในการใช้งานสินค้าให้เกิดประโยชน์สูงสุดให้แก่ลูกค้าเป็น
ประจําทุกเดือน
• ความเสี่ยงจากการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ในปี
2565 ที่ผ่านมาสถานการณ์โควิดคลี่คลายขึ้น ร้านค้าสามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติ แต่จากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคบางส่วน บริษัทฯ ยังคงดำเนินการการบริหารจัดการที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้า โดยผ่าน Social Media และช่องทางออนไลน์ ควบคู่ไปกับการดำเนินการร้านค้าปกติ
ณ วันที่ 30/12/65 | SPVI | TECH | mai |
---|---|---|---|
P/E (เท่า) | 15.39 | 57.06 | 54.51 |
P/BV (เท่า) | 4.39 | 7.61 | 2.98 |
Dividend yield (%) | 3.15 | 0.85 | 1.14 |
30/12/65 | 30/12/64 | 30/12/63 | |
---|---|---|---|
Market Cap (ลบ.) | 2,220.00 | 2,880.00 | 1,160.00 |
ราคา (บาท/หุ้น) | 5.55 | 7.20 | 2.90 |
P/E (เท่า) | 15.39 | 26.97 | 18.28 |
P/BV (เท่า) | 4.39 | 6.65 | 3.13 |