บริษัทดำเนินธุรกิจให้บริการคลินิกด้านความงาม ดูแลผิวพรรณ กระชับสัดส่วน ศัลยกรรมตกแต่ง และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ด้วยเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยและได้รับการรับรองจาก US FDA
3M66 | 3M65 | 2565 | 2564 |
---|
รายได้ | 514.81 | 1,647.20 | 952.14 | |
ค่าใช้จ่าย | 426.38 | 1,390.34 | 798.85 | |
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ | 69.06 | 205.49 | 129.26 |
สินทรัพย์ | 2,740.74 | 2,590.25 | 824.69 | |
หนี้สิน | 1,025.92 | 944.50 | 664.18 | |
ส่วนผู้ถือหุ้น | 1,714.81 | 1,645.75 | 160.50 |
กิจกรรมดำเนินงาน | 102.48 | 407.96 | 238.56 | |
กิจกรรมลงทุน | -79.73 | -1,226.44 | -51.37 | |
กิจกรรมจัดหาเงิน | -23.60 | 1,207.02 | -120.57 |
กำไรต่อหุ้น (บาท) | 0.31 | 1.21 | 0.81 | |
อัตรากำไรขั้นต้น (%) | 54.76 | 56.31 | 58.82 | |
อัตรากำไรสุทธิ (%) | 13.41 | 12.48 | 13.58 | |
D/E Ratio (เท่า) | 0.60 | 0.57 | 4.14 | |
ROE (%) | 13.06 | 22.75 | 80.53 | |
ROA (%) | 10.29 | 15.04 | 18.59 |
วิสัยทัศน์
เป็นผู้นำที่ได้การยอมรับในระดับสากลด้านผิวหนังความงาม ศัลยกรรมตกแต่ง รวมถึงการดูแลป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพ ผ่านการใช้ยาและนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อความงามอันทันสมัยและครบวงจร ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แผนการดำเนินงานหลัก
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 บริษัทมีสาขาทั้งหมด 43 สาขาทั่วประเทศไทย
โดยให้บริการภายใต้คลินิกเวชกรรมและศูนย์ศัลยกรรม 4 แผนกหลัก ดังนี้ แผนกผิวหนังและความงาม (Aesthetic Skin) แผนกควบคุมน้ำหนักและดูแลรูปร่าง (Body & Weight Management) แผนกศัลยกรรมตกแต่ง (Plastic Surgery) และแผนกชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ (Wellness)
บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการไตรมาส 1/66 จำนวน 508.97
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ตามการเพิ่ม
จำนวนของสาขาและการเพิ่มบริการที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้า
มากขึ้น การทำการตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ลูกค้ารู้จักและเข้าถึง
แบรนด์ได้มากขึ้น อีกทั้งการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจากการ
คลี่คลายของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการเดิน
ทางระหว่างประเทศที่คึกคักขึ้นในต้นปีนี้ ประกอบกับการเติบโตของศูนย์
ศัลยกรรมและแบรนด์ใหม่ L.A.B X ที่เปิดตัวในไตรมาส 2/65
บริษัทงมีนโยบายที่จะสร้างความแตกต่าง โดยเน้นการสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภคจดจำ เน้นการให้บริการแบบครบวงจรด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัยจากยุโรปและสหรัฐอเมริกา พัฒนาความสามารถของบุคลากรให้ตอบสนอง ความต้องการของผู้บริโภค และเพิ่มจำนวนสาขา โดยเปิดสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค และเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงบริการของบริษัทได้ง่าย
บริษัทมุ่งเน้นและให้ความสำคัญในคุณภาพ การตรวจวิเคราะห์ รวมถึงการให้บริการด้วยการเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแหงสหรัฐอเมริกา(US FDA) เท่านั้น เนื่องจากถือว่าเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่ดีที่สุด โดยบริษัทได้ลงทุนซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง พิจารณาข้อมูลจากการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2552 พบว่าระยะเวลาเฉลี่ยของการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเครื่องมือทางการแพทย์ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์การแพทย์นั้นๆ โดยเฉลี่ยมีอายุประมาณ 5–12 ปี ทั้งนี้ หากบริษัทจะดำเนินการจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีวงเงินรวมในการซื้อต่อครั้ง 10 ลบ.ขึ้นไป จะต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโดยพิจารณาจากระยะเวลาคืนทุน และการลงทุน ในเครื่องมือแพทย์ดังกล่าว
คณะผู้บริหารของบริษัทได้มีการเข้าร่วม การอบรม สัมมนาที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยด้านเทคโนโลยีการรักษา ติดตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการรักษาต่างๆ เพื่อนำมาพัฒนาเทคโนโลยีการรักษาของบริษัท ทั้งยังได้มีการกำหนดให้มีการประเมินความต้องการของผู้บริโภคเป็นประจำเช่น การดูข้อมูล Survey เพื่อใช้ในการวางแผนการตลาดและพัฒนาบริการที่มีอยู่ให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ณ วันที่ 31/03/66 | KLINIQ | SERVICE | mai |
---|---|---|---|
P/E (เท่า) | 43.90 | 50.41 | 66.21 |
P/BV (เท่า) | 5.48 | 3.28 | 2.85 |
Dividend yield (%) | 1.22 | 1.48 | 1.26 |
31/03/66 | 30/12/65 | - | |
---|---|---|---|
Market Cap (ลบ.) | 9,020.00 | 8,525.00 | N/A |
ราคา (บาท/หุ้น) | 41.00 | 38.75 | N/A |
P/E (เท่า) | 43.90 | 42.78 | N/A |
P/BV (เท่า) | 5.48 | 5.26 | N/A |