6M66 | 6M65 | 2565 | 2564 |
---|
รายได้ | 123,207.93 | 113,100.45 | 236,244.78 | 195,653.81 |
ค่าใช้จ่าย | 116,709.21 | 108,235.63 | 224,186.54 | 192,914.44 |
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ | 3,735.40 | 2,690.31 | 7,174.99 | 59.37 |
สินทรัพย์ | 276,534.11 | 260,079.03 | 275,984.44 | 263,227.82 |
หนี้สิน | 206,826.17 | 197,621.72 | 211,099.29 | 204,146.57 |
ส่วนผู้ถือหุ้น | 66,508.91 | 59,722.95 | 62,122.89 | 56,388.47 |
กิจกรรมดำเนินงาน | 10,739.04 | 8,905.90 | 22,459.71 | 23,360.39 |
กิจกรรมลงทุน | -8,454.28 | -6,381.18 | -14,848.10 | -22,905.57 |
กิจกรรมจัดหาเงิน | -7,395.32 | -8,143.10 | -9,638.08 | -148.76 |
กำไรต่อหุ้น (บาท) | 0.62 | 0.45 | 1.19 | 0.01 |
อัตรากำไรขั้นต้น (%) | 28.19 | 26.19 | 27.40 | 25.27 |
อัตรากำไรสุทธิ (%) | 3.25 | 2.59 | 3.22 | 0.14 |
D/E Ratio (เท่า) | 2.97 | 3.16 | 3.25 | 3.46 |
ROE (%) | 13.02 | 4.95 | 12.11 | 0.11 |
ROA (%) | 5.54 | 2.68 | 4.78 | 1.20 |
บริษัทฯ ได้ขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจสู่เป้าหมาย Net Zero โดยการขยายสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนผ่านการติดตั้งโซล่าร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าในปริมาณ 76,130 เมกะวัตต์-ชั่วโมง และส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในระบบขนส่งของบริษัทฯ รวมทั้งการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าเพื่อสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของลูกค้า นอกจากการอนุรักษ์พลังงานแล้ว บริษัทฯยังให้ความสำคัญกับการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ดในเครือเซ็นทรัล รีเทล จับมือกับสตาร์ทอัพ Yindii (ยินดี) แอปพลิเคชันซื้อ-ขายอาหารส่วนเกินอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปลี่ยนอาหารส่วนเกินคุณภาพดีให้เป็น “Surprise Bags” สำหรับลูกค้าในราคาพิเศษ ซึ่งเป็นการช่วยลดปริมาณขยะอาหารและช่วยให้ผู้บริโภคได้ประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ท็อปส์ ได้รับรางวัลด้านความยั่งยืนจากเวทีระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค “Convenience Retail Sustainability Award” รางวัลแห่งเกียรติยศที่มอบให้กับองค์กรค้าปลีกที่ดำเนินธุรกิจและให้ความสำคัญด้านความยั่งยืน สร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้กับผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 2 ปี 2566 ยังคงปรับตัวดีขึ้นเทียบกับปีก่อนหน้า จากที่บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจตามยุทธศาสตร์ CRC Retailligence และการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการพัฒนา Central Retail Ecosystem และแพลตฟอร์ม Omnichannel ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบ รวมถึงการปรับโครงสร้างต้นทุนทางการเงินให้เหมาะสมท่ามกลางภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น
สรุปผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก ปี 2566
ในช่วงครึ่งปีแรกของ 2566 เซ็นทรัล รีเทล มีรายได้รวม 123,208 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน และกำไรสุทธิ 4,002 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากปีก่อน เนื่องมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว จากการปรับปรุงสาขาเดิมและการขยายสาขาใหม่ของทุกส่วนงาน และการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ (rebranding) ของส่วนงานฟู้ด อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีรายได้จากการให้บริการเช่าที่เพิ่มขึ้นจากการขยายพื้นที่ให้เช่าทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม และมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้นตามยอดขาย อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ได้เพิ่มขึ้นอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น การขยายสาขาใหม่และสาขารูปแบบใหม่ รวมทั้งจากการปรับเพิ่มอัตราค่าไฟฟ้าในประเทศไทย
พัฒนาการที่สำคัญของบริษัทฯในไตรมาส 2 ปี 2566
1) การขยายและการปรับปรุงสาขา
ในไตรมาส 2 ปี 2566 บริษัทฯ ได้มีการขยายสาขาและปรับปรุงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของประเทศไทยและประเทศเวียดนาม บริษัทฯ มีการเปิดสาขาในกลุ่มฮาร์ดไลน์และฟู้ด นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ได้เปิดร้านค้าเฉพาะทาง (Specialty Store) รวมทั้ง Brandshop ต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและเวียดนามอย่างต่อเนื่อง ด้านการปรับปรุงสาขา บริษัทฯ ได้ปรับปรุงสาขาของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสัน อีกทั้งได้ปรับปรุงร้านค้าขนาดเล็กอื่นๆ รวมทั้งได้ปรับปรุงสาขา Milan และ Monza ของห้างสรรพสินค้า Rinascente ในประเทศอิตาลีอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
2) Omnichannel
บริษัทฯ ได้พัฒนา Next-Gen Omnichannel Platform เพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งเฉพาะบุคคลให้เป็นทางเลือกเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่เชื่อมประสบการณ์ช้อปปิ้ง Offline และ Online เข้าด้วยกันอย่างไม่มีสะดุด ครอบคลุมทั้งเครือข่ายเซ็นทรัล รีเทล ในไทย เวียดนาม และอิตาลี เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สมบูรณ์แบบ
3) แผนงานด้าน Synergy
บริษัทฯ ได้ดำเนินแผนงานด้าน Synergy เพื่อสร้างผลประโยชน์ทั้งในด้านรายได้และการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งโครงการต่าง ๆ มีความคืบหน้าเป็นไปตามแผนที่วางไว้
4) การขยายร้านค้ารูปแบบใหม่ และการสร้างธุรกิจใหม่เพื่อการเติบโต (New Formats and New Growth Pillar)
บริษัทฯ ได้พัฒนาโมเดลร้านค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า รวมทั้งขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม พร้อมทั้งก้าวเข้าสู่ New Business ด้วยการเพิ่มกลุ่มธุรกิจ Health and Wellness ตอบโจทย์สุขภาพของคนและสัตว์เลี้ยง
บริษัทฯ ยังคงดำเนินการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบ อาทิ การบริหารจัดการสินค้าและรายการส่งเสริมการขายให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม การใช้นวัตกรรมด้านการประหยัดพลังงาน เช่น การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ หรือการใช้รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า (EV) สำหรับการขนส่งสินค้าในหลายหน่วยธุรกิจเพื่อช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทฯ รวมถึงการปรับโครงสร้างต้นทุนทางการเงินให้เหมาะสมท่ามกลางภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น
บริษัทฯ ได้รับการยกย่องจากองค์กรชั้นนำต่างประเทศและในประเทศในทุกๆด้านทั้งด้านความเป็นเลิศทางธุรกิจ ความยั่งยืน และนักลงทุนสัมพันธ์
ณ วันที่ 30/06/66 | CRC | COMM | SET |
---|---|---|---|
P/E (เท่า) | 28.90 | 30.80 | 17.96 |
P/BV (เท่า) | 3.60 | 2.30 | 1.46 |
Dividend yield (%) | 1.23 | 1.66 | 3.12 |
30/06/66 | 30/12/65 | 30/12/64 | |
---|---|---|---|
Market Cap (ลบ.) | 235,209.00 | 278,933.75 | 192,992.00 |
ราคา (บาท/หุ้น) | 39.00 | 46.25 | 32.00 |
P/E (เท่า) | 28.90 | 44.74 | - |
P/BV (เท่า) | 3.60 | 4.37 | 3.49 |