KTC ประกอบธุรกิจหลักด้านบัตรเครดิต ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจร้านค้ารับบัตร การให้บริการรับชำระเงินแทน และธุรกิจสินเชื่อบุคคล ซึ่งครอบคลุมไปถึงสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับและสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน
6M66 | 6M65 | 2565 | 2564 |
---|
รายได้ | 12,294.58 | 11,091.46 | 23,231.34 | 21,441.67 |
ค่าใช้จ่าย | 6,924.45 | 5,867.85 | 12,984.89 | 12,781.12 |
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ | 3,677.54 | 3,641.03 | 7,079.40 | 5,878.69 |
สินทรัพย์ | 102,545.12 | 90,845.04 | 101,795.99 | 89,471.09 |
หนี้สิน | 70,267.72 | 62,693.79 | 70,220.24 | 62,386.69 |
ส่วนผู้ถือหุ้น | 32,065.86 | 27,899.21 | 31,353.22 | 26,836.36 |
กิจกรรมดำเนินงาน | 1,774.32 | 809.67 | -4,277.20 | 8,334.26 |
กิจกรรมลงทุน | -144.70 | -108.88 | -225.72 | -778.69 |
กิจกรรมจัดหาเงิน | -1,956.19 | -1,490.55 | 4,321.97 | -7,390.07 |
กำไรต่อหุ้น (บาท) | 1.43 | 1.41 | 2.75 | 2.28 |
อัตรากำไรขั้นต้น (%) | ||||
อัตรากำไรสุทธิ (%) | 29.91 | 32.83 | 30.47 | 27.42 |
D/E Ratio (เท่า) | 2.18 | 2.23 | 2.22 | 2.30 |
ROE (%) | 23.20 | 26.61 | 24.33 | 23.55 |
ROA (%) | 7.20 | 8.08 | 7.40 | 6.61 |
ทิศทางการดำเนินงานในปี 2566 KTC ปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญ ทั้งโครงสร้างองค์กร กลยุทธ์ กระบวนการ เทคโนโลยีและบริการ เพื่อขับเคลื่อน KTC ไปสู่รากฐานองค์กรที่แข็งแกร่ง ภายใต้แนวคิด “ A Transition to the New Foundation” ด้วยกลยุทธ์ 3 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจบัตรเครดิต และธุรกิจสินเชื่อไม่มีหลักประกัน 2.กลุ่มธุรกิจใหม่ที่คาดว่าจะสร้างรายได้แบบก้าวกระโดด
(New S-Curve) ได้แก่ สินเชื่อรถแลกเงิน เคทีซี พี่เบิ้ม และสินเชื่อกรุงไทยธุรกิจ ลีสซิ่ง
3.กลุ่มโมเดลธุรกิจที่อยู่ในระหว่างการบ่มเพาะ (Incubator) เช่น MAAI – Loyalty Platform เป็นต้น
ภายใต้กรอบการขับเคลื่อนใน 3 มิติ คือ
-การจัดการโครงสร้างทั้งธุรกิจ ระบบ IT และระบบปฏิบัติการให้สอดคล้องกัน (Enterprise Architecture)
-ส่งเสริมให้พนักงานพัฒนาทักษะสำคัญด้านต่างๆ พร้อมก้าวไปกับบริษัท (Enterprise Skill Assets)
-บริหารจัดการข้อมูลตั้งแต่วางแผนการจัดเก็บ เข้าถึงใช้งาน ตลอดจนการทำลาย เน้นให้คำนึงถึงความ ปลอดภัย ถูกต้องและโปร่งใส (Enterprise Data Assets)
บริษัทได้จัดทำกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนระยะยาว 5 ปี ซึ่งครอบคลุมประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนใน 3 มิติ ได้แก่ กลยุทธ์มิติเศรษฐกิจ (Better Product and Service) กลยุทธ์มิติสังคม (Better Quality of Life) และกลยุทธ์มิติสิ่งแวดล้อม (Better Climate) ซึ่งบริษัทได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการ สร้างประสบการณ์ที่ดี และสร้างความไว้วางใจให้เกิดแก่สมาชิกและผู้มีส่วนได้เสียบนมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล นำไปสู่การสร้างโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน ให้แก่คนในสังคมได้อย่างทั่วถึง และบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
KTC มีกลยุทธ์ในปี 2566 ที่มุ่งเน้นการบริหารพอร์ตสมาชิกใน 3 ธุรกิจหลักให้มีคุณภาพที่ดีพร้อมกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เน้นทำการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ รวมถึงการขยายฐานสมาชิกเพื่อให้ธุรกิจเติบโตภายใต้กรอบแห่งความยั่งยืน
• งบการเงินรวมของบริษัท มีกำไรสุทธิใน 1H66 เป็นจำนวน 3,678 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0% จากงวดเดียวกันของปี 2565 ขณะที่กำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทใน 2Q66 มีจำนวน 1,806 ล้านบาทคิดเป็นลดลง 4.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า
• เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวมของกลุ่มบริษัท ใน 2Q66 มีมูลค่า 105,589 ล้านบาท เติบโตที่ 11.1% (YoY) จากการขยายตัวในทุก พอร์ต ทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล และลูกหนี้ตามสัญญาเช่า
• ภาพรวมปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรสำหรับไตรมาส 2 และครึ่งปี 2566 ของบริษัทมีอัตราขยายตัวที่ 10.6% และ 16.3% หรือมีมูลค่า 63,655 ล้านบาท และ 127,644 ล้านบาท ตามลำดับ
• %NPL ใน 2Q66 อยู่ที่ 2.0% ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ 1.9% ตามการขยายตัวของพอร์ตรวมซึ่งขยายตัวต่อเนื่องมา 5 ไตรมาสติดต่อกัน (YoY) แต่ระดับของ NPL ยังคงต่ำกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม
• ผลดำเนินงาน 2Q66 รายได้รวมเติบโตอยู่ที่ 8.8% (YoY) จากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 18.7% (YoY) ส่วนหนึ่งเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของพอร์ต ทำให้มี NPL เพิ่มขึ้นตามมาบ้าง ส่งผลให้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพิ่มขึ้น รวมถึงการตัดหนี้สูญเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนของต้นทุนทางการเงินสูงขึ้นเล็กน้อย
บริษัทกำหนดนโยบายการบริหารความเสี่ยง ที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบบริหารความเสี่ยงตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี ครอบคลุมการบริหารความเสี่ยงทุกด้านที่สำคัญ ผ่านการดำเนินการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง มีหน่วยงานที่รับผิดชอบงานด้านการบริหารความเสี่ยง โดยมีคณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยง (Risk Management Committee: RMC) ซึ่งประกอบด้วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหารสายงานหลัก กำกับดูแลการบริหารความเสี่ยงขององค์กรให้เป็นไปตามเป้าหมาย อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ มีสายงานกำกับกฎระเบียบและข้อบังคับ ทำหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนด และเป็นไปตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี และมีสายงานตรวจสอบภายในทำหน้าที่สอบทานการปฏิบัติตามกระบวนการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้มั่นใจว่ามีการนำระบบการบริหารจัดการความเสี่ยงมาใช้อย่างเหมาะสม
ณ วันที่ 30/06/66 | KTC | FIN | SET |
---|---|---|---|
P/E (เท่า) | 17.72 | 17.36 | 17.96 |
P/BV (เท่า) | 3.84 | 1.87 | 1.46 |
Dividend yield (%) | 2.32 | 3.09 | 3.12 |
30/06/66 | 30/12/65 | 30/12/64 | |
---|---|---|---|
Market Cap (ลบ.) | 127,627.54 | 152,121.71 | 152,766.29 |
ราคา (บาท/หุ้น) | 49.50 | 59.00 | 59.25 |
P/E (เท่า) | 17.72 | 22.84 | 25.67 |
P/BV (เท่า) | 3.84 | 5.13 | 5.98 |