9M66 | 9M65 | 2565 | 2564 |
---|
รายได้ | 49,627.95 | 44,182.17 | 63,025.62 | 51,154.66 |
ค่าใช้จ่าย | 46,840.46 | 41,458.94 | 59,090.15 | 48,041.98 |
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ | 2,189.21 | 2,127.95 | 3,037.71 | 2,630.39 |
สินทรัพย์ | 20,831.56 | 19,603.54 | 19,162.45 | 15,965.74 |
หนี้สิน | 13,239.34 | 13,182.40 | 11,910.55 | 10,664.99 |
ส่วนผู้ถือหุ้น | 7,485.82 | 6,344.54 | 7,154.47 | 5,284.86 |
กิจกรรมดำเนินงาน | 713.17 | -1,169.11 | 1,643.72 | 559.81 |
กิจกรรมลงทุน | -625.37 | -2,022.70 | -2,434.55 | -715.18 |
กิจกรรมจัดหาเงิน | -453.98 | 2,768.55 | 463.36 | 940.10 |
กำไรต่อหุ้น (บาท) | 0.91 | 0.89 | 1.27 | 2.19 |
อัตรากำไรขั้นต้น (%) | 13.88 | 13.61 | 13.45 | 13.39 |
อัตรากำไรสุทธิ (%) | 4.52 | 4.83 | 4.86 | 5.14 |
D/E Ratio (เท่า) | 1.74 | 2.05 | 1.64 | 2.01 |
ROE (%) | 44.81 | 56.63 | 48.84 | 57.58 |
ROA (%) | 20.07 | 24.51 | 22.41 | 25.67 |
บริษัทฯ มุ่งเน้นการเป็นผู้นำในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ทันสมัยด้วยการบริการที่เป็นเลิศโดยการบริหารจัดการจากทีมงานที่มีประสิทธิภาพ และสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดีตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสีย สังคมและสิ่งแวดล้อม บริษัทเชื่อมั่นว่าการดำเนินงานบนพื้นฐานของความยั่งยืนเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้องค์กรเติบโตได้อย่างมั่นคง
บริษัทฯ ได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2593 ตามวัตถุประสงค์ในความตกลงปารีส หรือ Paris Agreement
ณ สิ้นไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ มีจำนวนสาขารวม 1,318 สาขา เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 156 สาขา เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2565 (ปี 2565 : 1,162 สาขา) ประกอบด้วย BaNANA, Bb, B-Play, BKK, BeBePhone, E-quip, BaNANA Franchise, iCare, KingKong Phone, Studio7, True Shop by Com7, U-Store, PetPaw, Dr.Pharma และ Brand shop
รายได้ จำนวน 49,627.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,445.78 ล้านบาท (+12.33%) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน อัตราการเติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์ จากปัจจัยต่างๆดังนี้
1) รายได้จากสาขาที่ปิดปรับปรุงไปในไตรมาสก่อนและกลับมาทยอยเปิดในไตรมาสนี้ มีรายได้เข้ามาไม่เต็มไตรมาส
2) รายได้จากธุรกิจ ADEPT ที่ประกอบกิจการค้าส่งได้ยกเลิกการขายสินค้าแบรนด์ Realme ขณะที่การขายสินค้าแบรนด์อื่นเพื่อทดแทนยังไม่สามารถชดเชยรายได้ที่หายไปได้
สำหรับปัจจัยบวกหลัก มาจากกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟนที่มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ในไตรมาสนี้จากหลากหลายแบรนด์ อาทิ Samsung, Oppo, Xiaomi, Vivo โดยเฉพาะ iPhone 15 จากการที่ประเทศไทยขึ้นเป็นกลุ่มแรกที่จำหน่าย iPhone New Series ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ทำให้บริษัทฯ ได้จำนวนเครื่องมาจำหน่ายในระดับที่เพิ่มขึ้น แม้การเปิดจัดจำหน่ายวันแรกจะล่าช้าไป 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับวันเริ่มขายวันแรกของ iPhone 14 รวมถึงการเปิดสาขาที่ปิดปรับปรุงไปในไตรมาสก่อนสามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้ตามแผนงาน
ค่าใช้จ่าย จำนวน 46,840.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,381.52 ล้านบาท (+12.98%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ตามจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น โดยมีค่าใช้จ่ายหลัก คือ ค่าเช่า ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน ค่าสาธารณูปโภค และค่าเสื่อมราคา นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ปรับนโยบายการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญให้มีความรัดกุมมากขึ้น ตั้งแต่ไตรมาส 4/2565 โดยทยอยบันทึกรายการขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ทางการเงินตาม TFRS9 และสำหรับไตรมาสถัดๆไปคาดว่ารายการขาดทุนดังกล่าวจะค่อยๆปรับตัวลดลงและกลับเข้าสู่ระดับที่เหมาะสม ด้านต้นทุนทางการเงินปรับตัวเพิ่มขึ้นจากผลกระทบการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยและจากเงินกู้ยืมระยะสั้นที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการซื้อสินค้าและการขยายสาขา ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความพยายามในการควบคุมค่าใช้จ่ายและสินค้าคงเหลือ รวมถึงการเจรจากับ Supplier ในการเพิ่มระยะเวลาการชำระเงินเพื่อให้ค่าใช่จ่ายโดยรวมอยู่ในระดับที่เหมาะสม
กำไรสุทธิ จำนวน 2,189.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.26 ล้านบาท (+2.88%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน
บริษัท คอมเซเว่น โฮลดิ้ง จำกัด (บริษัทย่อย)
บริษัท โกลด์ อินทิเกรท จำกัด ในเดือนกันยายน บริษัท คอมเซเว่น โฮลดิ้ง จำกัด เข้าลงทุนร่วมใน บริษัท โกลด์ อินทิเกรท จำกัด โดยถือหุ้นในสัดส่วน 40% จากจำนวนทุนจดทะเบียนหุ้นสามัญจำนวน 1,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 100 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทได้ชำระค่าหุ้นดังกล่าวครบถ้วนแล้วในเดือนกันยายน พ.ศ. 2566 เพื่อประกอบกิจการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Aion โดยเบื้องต้น บริษัทฯ คาดว่าจะมีโชว์รูมจำหน่ายรถไฟฟ้ามากกว่า 10 สาขาภายในปี 2567
การดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบันต้องพร้อมรับมือกับความท้าทาย ทั้งการแข่งขันทางธุรกิจ การพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา นอกเหนือจากการวางระบบการ ควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลแล้ว บริษัทได้ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง เพื่อเป็นกลไกบริหารความไม่แน่นอนให้กลายเป็นโอกาสที่สร้างผลกระทบทางบวก และควบคุมไม่ให้เป็นความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบด้านลบต่อเป้าหมายและ วัตถุประสงค์ขององค์กร
บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการระดับ 5 ดาว "ดีเลิศ" ประจำปี 2566 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.)
บริษัทฯ ได้รับผลคะแนนการประเมินความยั่งยืน ประจำปี 2566 ระดับ A จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.)
ณ วันที่ 29/09/66 | COM7 | COMM | SET |
---|---|---|---|
P/E (เท่า) | 23.20 | 30.64 | 20.33 |
P/BV (เท่า) | 10.72 | 2.24 | 1.44 |
Dividend yield (%) | 2.42 | 1.74 | 3.18 |
29/09/66 | 30/12/65 | 30/12/64 | |
---|---|---|---|
Market Cap (ลบ.) | 74,999.95 | 81,599.94 | 98,100.00 |
ราคา (บาท/หุ้น) | 31.25 | 34.00 | 81.75 |
P/E (เท่า) | 23.20 | 26.72 | 43.04 |
P/BV (เท่า) | 10.72 | 12.78 | 22.42 |