9M66 | 9M65 | 2565 | 2564 |
---|
รายได้ | 66.73 | 84.47 | 138.12 | 93.43 |
ค่าใช้จ่าย | 85.41 | 62.30 | 98.59 | 74.80 |
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ | -33.54 | 16.84 | 28.96 | 15.08 |
สินทรัพย์ | 288.29 | 333.66 | 355.58 | 315.81 |
หนี้สิน | 17.81 | 25.56 | 35.36 | 19.14 |
ส่วนผู้ถือหุ้น | 270.49 | 308.10 | 320.23 | 296.66 |
กิจกรรมดำเนินงาน | 0.32 | 31.07 | 46.39 | 16.90 |
กิจกรรมลงทุน | -13.79 | 24.71 | 2.10 | -177.36 |
กิจกรรมจัดหาเงิน | -16.20 | -5.40 | -5.40 | 177.00 |
กำไรต่อหุ้น (บาท) | -0.12 | 0.06 | 0.11 | 0.07 |
อัตรากำไรขั้นต้น (%) | 33.68 | 53.05 | 51.71 | 55.84 |
อัตรากำไรสุทธิ (%) | -50.27 | 19.93 | 20.97 | 16.14 |
D/E Ratio (เท่า) | 0.07 | 0.08 | 0.11 | 0.06 |
ROE (%) | -7.40 | 9.99 | 9.39 | 7.33 |
ROA (%) | -7.80 | 11.35 | 10.88 | 8.23 |
รายได้หลักของบริษัท ยังคงมาจากธุรกิจหลัก คือการจำหน่ายงานประเภทวรรณกรรมออนไลน์ ภายใต้แพลตฟอร์ม “KAWEBOOK” และ "JINOVEL" และปัจจุบัน ได้มุ่งเน้นการลงทุนเพื่อพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะด้าน AI โดยทำการโปรโมทอย่างต่อเนื่อง ตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ และมีการพัฒนาเพื่อเตรียมเปิดตัว ALISA ENTERPRISE
บริษัทยังคงยึดมั่นในนโยบายการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนภายใต้การกำกับกิจการที่ดี คือ มุ่งเน้นการนำเสนอผลงานที่มีคุณภาพ ภายใต้แนวคิดที่ว่า “คุณธรรม นำการค้า”
Q3/2566 หลังเปิดตัวนวัตกรรม Alisa ซึ่งถือเป็น Generative AI รายแรกของไทย ก็ได้รับความสนใจจากผู้ใช้งาน และผลตอบรับในเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสามารถรอบด้าน ตอบโจทย์ทุกคน ทุกอาชีพ ทั้งสามารถค้นหาข้อมูล ตอบคำถาม เขียน Code รวมถึง Generate Image ซึ่ง Alisa มีข้อมูลอัพเดตจนถึงปี 2023 ทำให้มีผู้ใช้งานทะลุหลักล้านทันทีหลังเปิดตัวไม่ถึง 3 เดือน ตามเจตนารมณ์หลักของบริษัทที่จะสนับสนุนให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างทั่วถึงและปลอดภัย
9 เดือนแรก ปี 2566 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการเท่ากับ 63.76 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนจำนวน 17.64 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่ลดลงร้อยละ 22 22 เนื่องจากการแข่งขันในอุตสาหกรรมมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ต้นทุนขายและบริการจำนวน 42.29 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 66 ของรายได้รวม ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน 4.07 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 โดยมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนสินค้าใหม่ที่บริษัทวางจำหน่าย และต้นทุนการบริการซึ่งส่วนใหญ่เป็นต้นทุนในการซื้อลิขสิทธิ์ โดยต้นทุนบริการหลักของบริษัทประกอบด้วย ต้นทุนคงที่ซึ่งได้แก่ ค่าลิขสิทธิ์ตัดจำหน่าย ค่าดูแลเว็บไซต์ เป็นต้น โดยต้นทุนบริการหลักของบริษัทประกอบด้วย ต้นทุนคงที่ซึ่งได้แก่ ค่าลิขสิทธิ์ตัดจำหน่าย ค่าดูแลเว็บไซต์ และผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท ที่ออกสู่ตลาดในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2566 คือ อลิสา (Alisa) ซึ่งเป็น Generative AI รายแรกของประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้เข้าใช้งานในประเทศไทยประมาณ 1.9 ล้านคน โดยอลิสาสามารถพูดคุยเข้าใจได้คล้ายการคุยกับคน และ สร้างรูปภาพได้ใน AI เดียว มีข้อมูลจนถึงปัจจุบัน ซึ่งสามารถช่วยลดเวลาทำงานให้กับผู้คนได้จริง
2564 - บริษัทแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน , เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 135 ล้านบาท , เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และมีการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก
2565 - มีการเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ ภายใต้ชื่อ “ JINOVEL” และมีการลงทุนในบริษัท Startup-sme จำนวน 3 แห่ง
2566 – มีการเปิดตัว Alisa Generative AI รายแรกของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบัน มีผู้เข้าใช้งานมากกว่า 1.8 ล้านคน
บริษัทมีการกำหนดนโยบายบริหารความเสี่ยงองค์กร พร้อมทั้งกำหนดแนวทางการแก้ไขและกำหนดกรอบเวลาติดตามอย่างชัดเจน เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีการจัดการความเสี่ยงให้หมดไปหรือลดน้อยลง รวมทั้งบริษัทได้มีการลงทุนผ่านสตาร์ทอัพเพื่อเป็นการการะจายความเสี่ยงทางธุรกิจให้มีความหลากหลายและเป็นไปตามแผนการขยายธุรกิจของบริษัท
- ได้รับรางวัลสุดยอด SME Start up ในการประกวดรางวัล SME Start upครั้งที่3 กลุ่มธุรกิจงานสร้างสรรค์และออกแบบ จัดโดยสำนักงานสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA)
ณ วันที่ 29/09/66 | GLORY | SERVICE | mai |
---|---|---|---|
P/E (เท่า) | - | 54.13 | 109.70 |
P/BV (เท่า) | 2.28 | 2.70 | 2.40 |
Dividend yield (%) | 2.54 | 1.66 | 1.47 |
29/09/66 | 30/12/65 | 30/12/64 | |
---|---|---|---|
Market Cap (ลบ.) | 637.20 | 734.40 | 1,101.60 |
ราคา (บาท/หุ้น) | 2.36 | 2.72 | 4.08 |
P/E (เท่า) | - | 35.45 | 89.72 |
P/BV (เท่า) | 2.28 | 2.38 | - |