- บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (“บริษัท”) เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านการลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทอืน (Holding Company) โดยปัจจุบันถือหุ้นใน บจ. ไทยแอร์เอเชีย เพียงแห่งเดียว ดังนั้นภาพรวมการประกอบธุรกิจจะพิจารณาจากบริษัทที่ดำเนินธุรกิจหลัก (Operating Company) หรือ บจ. ไทยแอร์เอเชีย เท่านั้น
- บจ. ไทยแอร์เอเชีย มุ่งเน้นการให้บริการกลุ่มผู้โดยสารที่เลือกใช้บริการสายการบินเพื่อการท่องเที่ยวและวัตถุประสงค์ทางธุรกิจโดยคำนึงถึงราคาค่าโดยสาร เที่ยวบินที่หลากหลายและตรงต่อเวลาเป็นสำคัญนอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการให้บริการที่หลากหลายเส้นทางบินและเพิ่มความถี่ของเที่ยวบิน ทั้งเส้นทางบินระหว่างประเทศและภายในประเทศ ที่ใช้เวลาเดินทางต่อเที่ยวบินไม่เกิน 5 ชั่วโมง 30 นาที จากฐานปฏิบัติการบิน (Hub) แต่ละแห่งในประเทศไทย ได้แก่ กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานดอนเมือง) กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) ภูเก็ต และเชียงใหม่ ซึ่งทำ ให้สายการบินไทยแอร์เอเชีย สามารถเข้าถึงประชากรในประเทศและ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ ตอนใต้ของประเทศจีน และญี่ปุ่น
| 3M67 | 3M66 | 2566 | 2565 |
|---|
| รายได้ | 14,027.35 | 9,821.50 | 42,983.01 | 18,319.94 |
| ค่าใช้จ่าย | 13,934.03 | 8,827.93 | 40,165.13 | 26,766.36 |
| กำไร (ขาดทุน) สุทธิ | -409.09 | 359.40 | 465.82 | -8,030.00 |
| สินทรัพย์ | 70,535.64 | 66,000.98 | 67,793.88 | 64,685.52 |
| หนี้สิน | 62,532.40 | 57,687.17 | 59,381.54 | 56,731.12 |
| ส่วนผู้ถือหุ้น | 8,003.25 | 8,313.81 | 8,412.34 | 7,954.41 |
| กิจกรรมดำเนินงาน | 2,414.61 | 2,883.08 | 6,239.12 | 564.02 |
| กิจกรรมลงทุน | -99.90 | -253.39 | -926.33 | -589.72 |
| กิจกรรมจัดหาเงิน | -2,003.25 | -1,688.49 | -4,820.85 | -4,530.71 |
| กำไรต่อหุ้น (บาท) | -0.03 | 0.03 | 0.04 | -0.69 |
| อัตรากำไรขั้นต้น (%) | 18.50 | 13.03 | 10.74 | -34.07 |
| อัตรากำไรสุทธิ (%) | -2.92 | 3.66 | 1.08 | -44.84 |
| D/E Ratio (เท่า) | 7.81 | 6.94 | 7.06 | 7.13 |
| ROE (%) | -3.71 | -48.62 | 5.69 | -57.04 |
| ROA (%) | 2.81 | -7.09 | 4.25 | -12.43 |
ปี 2567 บจ. ไทยแอร์เอเชีย ตั้งเป้ารักษาความเป็นผู้นำในตลาดภายในประเทศ พร้อมขยายฝูงบินเพิ่มเติม โดยมีแผนขยายฝูงบินจาก 56 ลำในปี 2566 เป็น 60 ลำภายในปี 2567 โดยมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนเครื่องบินปฏิบัติการบินเป็น 57 ลำ ตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศ คาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งและขยับเข้าใกล้ช่วงก่อนโควิด-19 มากขึ้น โดยสายการบินไทยแอร์เอเชียมีเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณที่นั่งเพื่อให้บริการสำหรับตลาดภายในประเทศอีกร้อยละ 10 เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดและคงสัดส่วนจำนวนผู้โดยสารในประเทศที่ร้อยละ 60 ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด
บจ. ไทยแอร์เอเชีย มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ให้บริการ ผู้ส่งมอบ ประสบการณ์การเดินทางที่คุ้มค่า ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพห่วงโซ่คุณค่าและรับผิดชอบต่อผลกระทบต่างๆ ผ่านความใส่ใจต่อผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในและภายนอก พร้อมแสวงหาโอกาสในการพัฒนาเพือเติบโตร่วมกันในการขับเคลือนธุรกิจของ บจ. ไทยแอร์เอเชียภายใต้กลยุทธ์ด้านความยั่งยืน (3G Good / Green / Growth) ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าว ครอบคลุม 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมซึ่งประเด็นดังกล่าวได้ถูกนำมาพิจารณาทุกๆ กิจกรรมการดำเนินงานของบริษัทอย่างสม่ำเสมอ โดยเชือว่าทั้ง 3 ประเด็น สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในทุกกิจกรรม หากเรามุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ ในปี 2566 เราได้ใช้แนวทางเดียวกันกับนโยบายของ Capital A สำหรับปณิธานและพันธกิจ [อ่านเพิ่มเติม]
ความต้องการเดินทางท่องเที่ยวยังคงสูงอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ บจ. ไทยแอร์เอเชีย มีอัตราการขนส่งผู้โดยสารสูงเป็นประวัติการณ์ถึงร้อยละ 93 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้ทำการขนส่งผู้โดยสารทั้งสิ้น 5.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ปริมาณที่นั่งที่ให้บริการและจำนวนผู้โดยสารฟื้นตัวมาที่ร้อยละ 90 และ 93 ของระดับก่อนเกิดโรคระบาด ตามลำดับ
ในไตรมาส 1 ปี 2567 บจ. ไทยแอร์เอเชีย ให้บริการที่นั่ง 5.8 ล้านที่นั่ง หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และขนส่งผู้โดยสารจำนวน 5.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้อัตราขนส่งผู้โดยสารทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ร้อยละ 93 พร้อมกับอัตราการใช้เครื่องบินเฉลี่ยอยู่ที่ 13 ชั่วโมงต่อลำต่อวัน เช่นเดียวกับส่วนแบ่งตลาดด้านผู้โดยสารภายในประเทศที่ยังคงทำจุดสูงสุดใหม่ที่ร้อยละ 40 หนุนด้วยขนาดฝูงบินที่ใหญ่กว่าคู่แข่ง ส่วนภาพรวมตลาดระหว่างประเทศยังเห็นความต้องการเดินทางในระดับสูง โดยเฉพาะเที่ยวบินไปยังจีน เวียดนาม ไต้หวัน และกัมพูชา ซึ่งมีอัตราขนส่งผู้โดยสารสูงกว่าร้อยละ 90
โดยสรุป ไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทรายงานรายได้จากการขายและบริการจำนวน 13,793.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 52 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากการเติบโตของอัตราค่าโดยสารเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 มาอยู่ที่ 2,109 บาท และปริมาณที่นั่งที่เพิ่มขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและการให้บริการเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ร้อยละ 42 ทำให้ EBITDA เติบโตร้อยละ 78 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 3,094.2 ล้านบาท ส่งผลให้ RASK และ CASK ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 2.20 บาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 18) และ 1.96 บาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 7) ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าระหว่างไตรมาส ส่งผลให้ AAV รายงานขาดทุนสุทธิในไตรมาสนี้จำนวน (409.1) ล้านบาท เนื่องจากขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (2,049.4) ล้านบาท ซึ่งกว่าร้อยละ 90 เป็นขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง หากไม่รวมผลขาดทุนดังกล่าว AAV จะมีกำไรจากการดำเนินการหลักจำนวน 1,640.3 ล้านบาท ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างมากจากขาดทุนจำนวน (203.2) ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน [อ่านเพิ่มเติม]
ระหว่างไตรมาส บจ. ไทยแอร์เอเชีย ได้เปิดเส้นทางใหม่จากหาดใหญ่ไปสิงคโปร์และดอนเมืองไปเกาสง (ไต้หวัน) นอกจากนั้น การประกาศยกเว้นวีซ่าระหว่างประเทศไทยและจีนส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารบนเที่ยวบินดังกล่าวฟื้นตัวกลับมาร้อยละ 51 ของระดับก่อนเกิดโรคระบาด ส่วนหนึ่งมาจากผู้โดยสารชาวไทยที่เดินทางไปยังประเทศจีนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 22 ในเดือนมีนาคมปีนี้ เทียบกับร้อยละ 8 เดือนมีนาคม 2562
บริษัทมีการเปิดเผยการบริหารจัดการความเสี่ยงไว้ในรายงานประจำปีหรือแบบ 56-1 One Report [อ่านเพิ่มเติม]
- แอร์เอเชียได้รับการโหวตให้เป็น “สายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลก” จาก Skytrax World Airline Awards 2023 เป็นปีที่ 14 ติดต่อกัน
- ไทยแอร์เอเชีย คว้าอันดับ 3 “สายการบินตรงเวลาที่สุดในเอเชียแปซิฟิก” พร้อมรั้งตำเเหน่งอันดับ 7 “สายการบินราคาประหยัดที่ตรงเวลาที่สุดในโลก” ในปี 2566 จัดอันดับโดย Cirium
- แอร์เอเชีย รับรางวัลสายการบินราคาประหยัดชั้นนำของโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 11 และ รางวัลพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบินราคาประหยัดชั้นนำของโลกเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน
- แอร์เอเชีย ได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในสายการบินราคาประหยัดที่ปลอดภัยสูงสุดประจำปี 2566 ด้วย เรตติ้ง 7/7 จากผู้เชี่ยวชาญการบิน airlineratings.com
| ณ วันที่ 29/03/67 | AAV | TRANS | SET |
|---|---|---|---|
| P/E (เท่า) | 66.21 | 63.63 | 18.10 |
| P/BV (เท่า) | 3.67 | 2.91 | 1.33 |
| Dividend yield (%) | - | 1.50 | 3.38 |
| 29/03/67 | 28/12/66 | 30/12/65 | |
|---|---|---|---|
| Market Cap (ลบ.) | 30,840.00 | 25,571.50 | 37,222.71 |
| ราคา (บาท/หุ้น) | 2.40 | 1.99 | 3.06 |
| P/E (เท่า) | 66.21 | 33.36 | - |
| P/BV (เท่า) | 3.67 | 3.76 | 6.81 |
