HTECH : บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน)
3M/2567 (ม.ค. - มี.ค. 2567)
ภาพรวมธุรกิจ

บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิต รับจ้างผลิต และจำหน่ายเครื่องมือตัดเฉือนโลหะ (Cutting Tools) ที่ทำมาจากเพชรสังเคราะห์ (Polycrystalline Diamond หรือ PCD และ Single Crystal Diamond หรือ SCD), PCBN (Polycrystalline Cubic Boron Nitride) และคาร์ไบด์ (Carbide) สำหรับใช้ในการผลิตชิ้นงานที่มีความเที่ยงตรงสูง เพื่อรองรับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ไดรฟ (HDD), อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนเครื่องบิน และอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังรับจ้างผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์และชิ้นส่วนโลหะต่างๆ ตามความต้องการของลูกค้า

งบการเงิน
3M67 3M66 2566 2565
งบกำไรขาดทุน (ลบ.)
รายได้ 294.18 268.07 1,055.18 1,202.18
ค่าใช้จ่าย 258.01 254.51 989.32 1,052.79
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 23.70 5.47 33.39 100.48
งบแสดงฐานะทางการเงิน (ลบ.)
สินทรัพย์ 1,820.20 1,849.41 1,784.10 1,864.80
หนี้สิน 372.71 414.03 393.37 433.56
ส่วนผู้ถือหุ้น 1,298.92 1,265.55 1,250.25 1,262.45
งบกระแสเงินสด (ลบ.)
กิจกรรมดำเนินงาน 34.64 12.44 199.47 259.49
กิจกรรมลงทุน -27.53 -15.79 -117.24 -33.85
กิจกรรมจัดหาเงิน -16.38 -0.20 -85.67 -107.97
อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ
กำไรต่อหุ้น (บาท) 0.08 0.02 0.11 0.33
อัตรากำไรขั้นต้น (%) 34.25 30.67 31.03 35.53
อัตรากำไรสุทธิ (%) 8.89 2.60 3.94 10.01
D/E Ratio (เท่า) 0.26 0.29 0.28 0.30
ROE (%) 4.03 5.72 2.66 8.13
ROA (%) 4.82 6.47 3.61 8.22
แผนธุรกิจ

สำหรับปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน โดย เน้นการเติบโตในส่วนงาน Special Cutting Tools เป็นหลัก หลังจากที่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากปีที่ผ่านมา โดยมีแผนการดำเนินงาน ดังนี้


  • ทั้งกลุ่มบริษัท โดยเฉพาะบริษัทใหญ่และบริษัทย่อยในประเทศไทย มีแผนพัฒนาการศักยภาพของทีมขายและการตลาดในการทำงานร่วมกันมากขึ้น โดยจัดฝึกอบรมพนักงาน เพื่อพัฒนาทักษะความรู้ของสินค้าที่หลากหลาย และการให้บริการลูกค้าที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเริ่มมีการนำสินค้าอุตสาหกรรมประเภทใหม่ๆ นอกเหนือจากกลุ่มเครื่องมือตัดเฉือนมาจำหน่ายให้กับลูกค้าเพื่อเพิ่มรายได้และโอกาสทางธุรกิจในอนาคต


  • บริษัทใหญ่มีแผนลงทุนซื้อเครื่องจักร เพื่อพัฒนาคุณภาพการผลิต และติดตั้ง Solar Roof เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้า (สามารถต่ออายุ BOI เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี 50% ของมูลค่าเงินลงทุน)


  • บริษัทย่อย MDP ในประเทศสหรัฐอเมริกา เพิ่มศักยภาพทีมขายเพื่อการขยายเครือข่ายการตลาดไปยังภูมิภาคใหม่ๆ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทในระยะยาว


  • บริษัทย่อย HV ในประเทศเวียดนาม หลังจากย้ายเข้าโรงงานแห่งใหม่ช่วงปลายปี 2566 ปัจจุบันเดินหน้าการผลิตอย่างเต็มที่เพื่อรองรับลูกค้าที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง


Highlight ที่น่าสนใจของบริษัท

บริษัทมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ Cutting Tools มายาวนานกว่า 20 ปี ผู้บริหารและบุคคลากรมีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมสูง รวมถึงมีการพัฒนาทักษะและองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร ปัจจุบันมีโรงงานผลิต 3 แห่ง อยู่ในประเทศไทย เวียดนาม และ สหรัฐอเมริกา และมีบริษัทย่อยที่เป็นตัวแทนจำหน่ายใน 7 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ไทย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, มาเลเซีย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย และ สหรัฐอเมริกา

การวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน
สรุปผลการดำเนินงาน

บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 294.18 ล้านบาท ในงวดสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 (Q1/2567) เพิ่มขึ้น 26.11 ล้านบาท (+9.74%) จากปีงวดเดียวกันในปี 2566 ซึ่งเป็นรายได้จากการขายและบริการ 281.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.65 ล้านบาท (+5.88%) โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 26.15 ล้านบาท และกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่จำนวน 23.70 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไร 8.89% และ 8.06% ต่อรายได้รวมตามลำดับ (เทียบกับ 2.60% และ 2.04% ในปีก่อน)

พัฒนาการที่สำคัญ

ส่วนงาน Special Cutting Tools มีรายได้ 145.59 ล้านบาท ใน Q1/2567 เพิ่มขึ้น 10.21% จากปีก่อน โดยส่วนงานนี้ประกอบไปด้วยโรงงานทั้ง 3 แห่งของบริษัท ซึ่งมีผลการดำเนินงานดีขึ้นเป็นผลหลักจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทใหญ่ นอกจากนี้ บริษัทย่อย Mastertech Diamond Products Co. ในประเทศสหรัฐอเมริกามีรายได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน หลังจากประสบปัญหาลูกค้ารายหลักลดปริมาณการสั่งซื้อ ในปีนี้มีปริมาณคำสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น และยังมีคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหม่ๆ เข้ามาเสริมเพิ่มเติมจากการจ้างพนักงานขายเพิ่ม เพื่อขยายฐานการตลาด ส่วนบริษัทย่อย Halcyon Vietnam Co., Ltd. ในประเทศเวียดนาม มีการย้ายโรงงานใหม่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ช่วงปลายปีผ่านมา และเศรษฐกิจของประเทศเริ่มมีสัญญาณดีขึ้นหลังจากวิดฤตเศรษฐกิจ และปัญหาพลังงานไม่เพียงพอใช้ในปีที่ผ่านมา จึงสามารถเดินหน้าการผลิตเต็มที่ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยส่วนงานนี้มีกำไรสุทธิ 16.77 ล้านบาท คิดเป็น 10.78% ของรายได้รวม เทียบกับ -1.22% ในปีก่อน อัตรากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็นผลหลักจากรายได้ของส่วนงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเช่นกันจาก 29.52% เป็น 35.47% รวมถึงมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้นจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 7.50 ล้านบาท ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับปีก่อน


ส่วนงาน Standard Cutting Tools มีรายได้ 117.31 ล้านบาท ใน Q1/2567 ลดลง 1.09% จากปีก่อน โดยมี 2 บริษัทในส่วนงานนี้ที่มีรายได้ลดลง ได้แก่ บริษัท เอฟ ดี เอ็ม เทคโนโลยี จำกัด มีรายได้ลดลง เนื่องจากปีก่อนมีฐานรายได้สูงกว่าปกติ และบริษัท Halcyon Technology (M) Sdn. Bhd. ในประเทศมาเลเซีย มีรายได้ลดลงเช่นกัน เนื่องจากมีความต้องการจากกลุ่มลูกค้าลดลง ทั้งนี้ บริษัทย่อยอื่นอีก 5 แห่งในส่วนงานนี้มีรายได้เติบโตขึ้นจากปีก่อน จากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในช่วงที่ผ่านมา และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม HDD จึงคาดว่าในไตรมาสต่อๆ ไปจะมีรายได้ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ โดยส่วนงานนี้มีกำไรสุทธิ 5.68 ล้านบาท คิดเป็น 4.74% ของรายได้รวม เทียบกับ 5.38% ในปีก่อน เป็นผลหลักจากรายได้ที่ลดลง ประกอบกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมทางการตลาด รวมถึงค่าใช้จ่ายพนักงาน และการขยายสำนักงานของบริษัทย่อยในสิงคโปร์ 


ส่วนงาน Toolings & Metal Fabrications ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานของบริษัทแฮลเซี่ยน เมทอล จำกัด มีรายได้ 18.81 ล้านบาท ใน Q1/2567 เพิ่มขึ้น 22.48% จากปีก่อน โดยส่วนงานนี้มีลูกค้าหลักอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบิน ซึ่งในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมามีคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้นตามลำดับหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย บริษัทจึงมีรายได้เติบโตขึ้นต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา ส่วนงานนี้มีกำไรสุทธิ 3.70 ล้านบาท คิดเป็นอัตรา 19.57% ของรายได้รวม เทียบกับ 13.78% ในปีก่อน โดยอัตรากำไรที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นผลหลักจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเช่นกัน จาก 35.08% เป็น 40.15% 

แนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงที่สำคัญ

บริษัทมีการกำหนดแผนการบริหารความเสี่ยงโดยกำหนดนโยบายและหลักเกณฑ์การบริหารความเสี่ยงให้สอดคล้องกับ กลยุทธ์ เป้าหมาย และทิศทางการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะมีการทบทวนเป็นประจำทุกปี และจะดำเนินการจัดทำพร้อมกันกับแผนธุรกิจเพื่อให้มีความสอดคล้องกัน นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์และประเมินการควบคุมภายในเป็นประจำ โดยจะมีการสอบทานติดตามผล และรายงานต่อคณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการบริษัทอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน

โครงสร้างรายได้ตามประเภทธุรกิจ
Special Cutting Tools 51.68% Standard Cutting Tools 41.64% Toolings & Metal Fabrications 6.68%
ข้อมูลหลักทรัพย์
SET / INDUS / IMM
ราคาปิด HTECH SET index 4.00 2.50 1.00 1625.00 1511.00 1397.00 1283.00 3-4-66 7-7-66 4-10-66 4-1-67 29-3-67
ณ วันที่ 29/03/67 HTECH IMM SET
P/E (เท่า) 19.95 - 18.10
P/BV (เท่า) 0.53 0.88 1.33
Dividend yield (%) 2.25 3.18 3.38
29/03/67 28/12/66 30/12/65
Market Cap (ลบ.) 666.00 672.00 1,200.00
ราคา (บาท/หุ้น) 2.22 2.24 4.00
P/E (เท่า) 19.95 24.00 8.92
P/BV (เท่า) 0.53 0.53 0.93
CG Report:
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ณ วันที่ 14/03/2567
นาย พีท ริมชลา (8.49%)
นาย วิทิต พงศ์พิโรดม (4.89%)
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด (4.27%)
น.ส. เภธรา ริมชลา (4.02%)
นาย คริสต์ ริมชลา (3.96%)
อื่น ๆ (74.37%)
ช่องทางการติดต่อบริษัท
http://www.halcyon.co.th
info@halcyon.co.th
0-2906-3250
41 หมู่ 14 นิคมอุตสาหกรรมบางชัน ซอย 6 ถนนเสรีไทย แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. 10510
ข้อมูลการซื้อขายอื่น ๆ : https://www.settrade.com/C04_01_stock_quote_p1.jsp?txtSymbol=HTECH
หมายเหตุ : เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทจดทะเบียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนแก่ผู้ลงทุนเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น บริษัทจดทะเบียนไม่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนใด ๆ ในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน โดยก่อนการตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและควรขอรับคำปรึกษาจากผู้ประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายหรือสูญหายจากการนำข้อมูลที่ปรากฏนี้ไปใช้ในทุกกรณี และบริษัทจดทะเบียนสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า รวมทั้งห้ามไม่ให้ผู้ใดนำเอกสารหรือข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ไปทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากบริษัทจดทะเบียนก่อน หากผู้ลงทุนมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลของบริษัท สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากรายงานหรือสารสนเทศที่บริษัทได้เผยแพร่ผ่านช่องทางของสำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และ/หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย