กลุ่มบริษัทเจมาร์ทยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้การดำเนินงานร่วมกันของกลุ่มบริษัทย่อย และร่วม โดยมี 6 สายธุรกิจหลัก ที่เน้นการประกอบธุรกิจหลักในธุรกิจค้าปลีก และการเงิน ด้วยเทคโนโลยี ภายใต้ปณิธานของการดำเนินงานในแนวคิด “The Power of Synergy” ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักที่สำคัญที่จะสร้างระบบนิเวศน์ในการดำเนินงาน (Ecosystem) เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น
| 3M67 | 3M66 | 2566 | 2565 |
|---|
| รายได้ | 3,799.58 | 3,562.18 | 14,585.65 | 14,741.59 |
| ค่าใช้จ่าย | 3,133.64 | 2,904.47 | 11,867.91 | 11,882.47 |
| กำไร (ขาดทุน) สุทธิ | 235.83 | -294.73 | -447.01 | 1,794.96 |
| สินทรัพย์ | 60,196.92 | 58,075.22 | 62,239.65 | 55,401.15 |
| หนี้สิน | 27,038.61 | 24,083.93 | 29,511.84 | 24,619.75 |
| ส่วนผู้ถือหุ้น | 18,859.06 | 20,003.42 | 18,618.99 | 18,965.07 |
| กิจกรรมดำเนินงาน | 566.46 | 200.06 | -1,113.21 | -909.14 |
| กิจกรรมลงทุน | 898.17 | -2,379.77 | -5,223.78 | -3,133.72 |
| กิจกรรมจัดหาเงิน | -2,444.67 | 1,881.02 | 4,369.69 | 5,557.38 |
| กำไรต่อหุ้น (บาท) | 0.16 | -0.20 | -0.31 | 1.27 |
| อัตรากำไรขั้นต้น (%) | 32.09 | 30.49 | 7.78 | 9.58 |
| อัตรากำไรสุทธิ (%) | 11.52 | -2.07 | 4.11 | 17.74 |
| D/E Ratio (เท่า) | 0.82 | 0.71 | 0.90 | 0.80 |
| ROE (%) | 0.43 | 6.21 | -2.38 | 9.91 |
| ROA (%) | 4.63 | 6.03 | 3.49 | 7.40 |
บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้การดำเนินงานร่วมกันของกลุ่มบริษัทย่อย และร่วม โดยมี 6 สายธุรกิจหลัก ที่เน้นการประกอบธุรกิจหลักในธุรกิจค้าปลีก และการเงิน ด้วยเทคโนโลยี ภายใต้ปณิธานของการดำเนินงานในแนวคิด “The Power of Synergy” ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักที่สำคัญที่จะสร้างระบบนิเวศน์ในการดำเนินงาน (Ecosystem)
ด้านการพัฒนาความยั่งยืน บริษัทมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ ทั้งมิติสิ่งแวดล้อม มิติเศรษฐกิจและสังคม และมิติกำกับดูแลกิจการที่ดี บริษัทให้ความสำคัญในการวางกระบวนการและแนวทางปฎิบัติภายในองค์กรและขยายออกสู่ชุมชนบริเวณใกล้เคียงพื้นที่โดยรอบของบริษัทหรือ Inside – Out และไปจนถึงการทำกิจกรรมเพื่อตอบสนองเป้าหมายตามหลักการสากลหรือ UN SDGs
บริษัทให้ความสำคัญกับภาวะโลกร้อนหรืออุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นจากภาวะเรือนกระจก บริษัทจึงมุ่งแก้ปัญหาจากการบริหารจัดการขยะตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง มีการออกแบบ วางแผนหาแนวทางการลดใช้ทรัพยากรควบคู่ไปกับการลดปริมาณขยะสร้างความยั่งยืนแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กับองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม โดยในไตรมาส 1/2567 บริษัทสามารถลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 4,439 กิโลกรัมคาร์บอน หรือ เที่ยบเท่าการปลูกต้นไม้ใหญ่ที่มีอายุ 10 ปี ได้ถึง 494 ต้น (การคำนวณด้วย Climate Care Platform โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)
ไตรมาสที่ 1/2567 บริษัทได้จัดทำเรื่องการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence หรือ HRDD) ซึ่งเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม สิทธิแรงงาน และสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน โดยบริษัจัดทำการประเมินความเสี่ยงในด้านต่างๆ เพื่อให้ได้มาถึงประเด็นที่อาจจะสร้างผลกระทบ และนำมากำหนดแนวางป้องกันและลดผลกระทบให้น้องลง และดำเนินการเปิดเผยข้อมูลทางเวปไซต์ของบริษัทต่อไปอีกด้วย
1.บริษัทย่อยในส่วนของธุรกิจหลักมีผลกำไรสุทธิที่ดีในไตรมาส 1/2567 โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ ธุรกิจการจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ
2.บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทที่ได้เข้าไปลงทุนในปี 2566 ที่ผ่านมาสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในไตรมาส 1/2567
รายได้รวมของบริษัท ไตรมาส 1/2567 เท่ากับ 3,574.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 197.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 5.8 ซึ่งการเพิ่มขึ้นของรายได้ของกลุ่มบริษัทมีผลจากธุรกิจบริหารและติดตามลูกหนี้ด้อยคุณภาพของเจเอ็มที โดยมีรายละเอียดของรายได้ในงบการเงินรวม ดังต่อไปนี้
- รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า เท่ากับ 2,296.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยส่วนเป็นผลจากการยอดขายในส่วนของธุรกิจมือถือที่เพิ่มขึ้นจากสินค้ารุ่นใหม่
- รายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้และเงินให้สินเชื่อ และกำไรจากเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้ ซึ่งเป็นรายได้ในส่วนของธุรกิจการเงินทั้งในส่วนของเจเอ็มที เท่ากับ 1,129 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 159.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากการจัดเก็บกระแสเงินสดจากหนี้ด้อยคุณภาพได้มากขึ้น เปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า
- รายได้ค่าเช่า เท่ากับ 92.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่ากับ 4.4 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากการขยายพื้นที่เช่าได้เพิ่มขึ้นจากโครงการที่แล้วเสร็จในปีก่อนได้แก่ JAS green village บางบัวทอง และ Senera คู้บอน
- รายได้จากการรับประกันภัย เท่ากับ 56.8 ล้านบาท ลดลง 17.9 ล้านบาทหรือร้อยละ 24 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าเนื่องจาก การพิจารณาการรับประกันภัย เพื่อควบคุมความเสี่ยงในการประกันภัย
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวมเท่ากับ 768.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.3 โดยเป็นผลจากค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าพนักงานที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวทางธุรกิจ
กำไรจากการดำเนินงาน เท่ากับ 612.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 431.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 239 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากในปีนี้ไม่มีการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากสินทรัพย์ทางการเงินอื่น
กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น 235.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 530.5 ล้านบาท โดยคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 6.6 และคิดเป็นอัตรากำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.16
บริษัทได้นำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในกลุ่มธุรกิจหลัก โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจค้าปลึก และธุรกิจทางด้านการเงิน และบริษัทได้เข้าลงทุนใน BKD โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการหารือในการพัฒนาโครงการทางด้านอสังหาริมทรัพย์บนพื้นที่ที่มีศักยภาพของ BKD ซึ่งหากผ่านการศึกษาทางด้านความเป็นไปได้ทางการเงินและโครงการแล้ว จึงจะดำเนินการต่อไป
เพื่อการบริหารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น บริษัทได้นำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจทางด้านการเงิน
| ณ วันที่ 29/03/67 | JMART | ICT | SET |
|---|---|---|---|
| P/E (เท่า) | - | 25.58 | 18.10 |
| P/BV (เท่า) | 1.14 | 2.56 | 1.33 |
| Dividend yield (%) | - | 3.99 | 3.38 |
| 29/03/67 | 28/12/66 | 30/12/65 | |
|---|---|---|---|
| Market Cap (ลบ.) | 21,427.09 | 25,216.92 | 58,148.31 |
| ราคา (บาท/หุ้น) | 14.70 | 17.30 | 40.75 |
| P/E (เท่า) | - | - | 19.98 |
| P/BV (เท่า) | 1.14 | 1.34 | 3.46 |
