บริษัทประกอบธุรกิจค้าปลีกเครื่องประดับเพชรและเพชรกะรัต โดยนำเข้าวัตถุดิบเพชรคุณภาพสูงจากประเทศเบลเยียม และว่าจ้างโรงงานเครื่องประดับและช่างฝีมือในประเทศผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปเพื่อจัดจำหน่าย โดยบริษัทมีช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งรูปแบบสาขาในห้างสรรพสินค้า และรูปแบบออนไลน์
3M67 | 3M66 | 2566 | 2565 |
---|
รายได้ | 348.58 | 409.94 | 1,579.87 | 1,795.12 |
ค่าใช้จ่าย | 297.11 | 321.75 | 1,307.61 | 1,394.88 |
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ | 40.59 | 69.01 | 203.22 | 314.38 |
สินทรัพย์ | 2,108.94 | 2,195.67 | 2,132.75 | 2,160.54 |
หนี้สิน | 457.46 | 614.41 | 521.85 | 648.29 |
ส่วนผู้ถือหุ้น | 1,651.49 | 1,581.26 | 1,610.90 | 1,512.24 |
กิจกรรมดำเนินงาน | 25.23 | 41.47 | 231.65 | 254.60 |
กิจกรรมลงทุน | 0.62 | -13.13 | -40.73 | -2.08 |
กิจกรรมจัดหาเงิน | -24.68 | -24.08 | -198.73 | -239.66 |
กำไรต่อหุ้น (บาท) | 0.23 | 0.40 | 1.17 | 1.80 |
อัตรากำไรขั้นต้น (%) | 49.23 | 50.10 | 48.56 | 49.77 |
อัตรากำไรสุทธิ (%) | 11.64 | 16.83 | 12.86 | 17.51 |
D/E Ratio (เท่า) | 0.28 | 0.39 | 0.32 | 0.43 |
ROE (%) | 10.81 | 19.52 | 13.01 | 22.11 |
ROA (%) | 10.25 | 16.80 | 11.98 | 18.80 |
ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้ายอดขายให้เติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 45 ซึ่งเพื่อให้สามารถเติบโตตามเป้าหมายได้นั้น บริษัทมีการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดโดยมุ่งเน้น การสร้าง Brand Awareness เพื่อให้ลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์ยูบิลลี่และคุณลักษณ์ที่โดดเด่นของสินค้าของยูบิลลี่ให้มากขึ้น แต่ยังคงประสานกับความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ (Customer Centric) ควบคู่ไปกับการฝึกอบรมพนักงานขายเพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย ยังมีการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการวิเคราะห์การขาย หรือการพัฒนาระบบสมาชิก ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การซื้อและสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้า นอกจากนี้บริษัทคำนึงและศึกษาถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคและปัจจัยภายนอกอยู่เสมอ ทำให้สามารถปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
บริษัทมีนโยบายและเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายว่า “เราจะมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการอย่างมีคุณภาพ เพื่อส่งมอบความสุขและความทรงจำให้แก่ ผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน โดยคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างรับผิดชอบ” (Precious Design to empower every imagination) ซึ่งจากเป้าหมายนี้ บริษัทได้คำนึงถึงผลกระทบและสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นอย่างสมดุลทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ (Product) ด้านสังคม (People) และด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) รวมถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม และคำนึงถึงหลักการกำกับกิจการที่ดี (Corporate Governance)
ในไตรมาสที่ 1 บริษัทได้มีการออกสินค้าใหม่อย่างหลากหลาย อาทิเช่นคอลเล็กชัน “The Dragon of Prosperity” และคอลเล็กชัน “Love Blooming Bliss Valentine’s” ซึ่งถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองในเทศกาลตรุษจีนและเทศกาลแห่งความรัก รวมทั้งได้ออกแคมเปญ “World Class Quality” ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่าน “Friend of Jubilee Diamond” คนแรกอย่าง “แอฟ ทักษอร” เพื่อที่จะสื่อสารและสร้างความเข้าใจที่ตรงกันเกี่ยวกับคุณภาพเพชรและนวัตกรรมการผลิตที่ดีที่สุดของเครื่องประดับเพชรของยูบิลลี่
ในไตรมาสที่ 1 เศรษฐกิจไทยยังมีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน สาเหตุจากการลงทุนภาครัฐที่ยังคงหดตัว เนื่องจากความล่าช้าของการประกาศใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี การบริโภคภาคเอกชนที่ยังมีแรงกดดันจากกลุ่มครัวเรือนรายได้น้อย เนื่องจากรายได้ครัวเรือนฟื้นตัวช้า ขณะที่หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง แม้ว่าการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวและปริมาณนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากขึ้นนั้นจะมาเป็นส่วนช่วยในการสนับสนุนการใช้จ่าย แต่เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเน้นการเดินทางไปยังเมืองท่องเที่ยวหลัก ส่งผลให้รายได้ฟื้นตัวไม่ทั่วถึง และแม้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลอย่างการควบคุมและลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค หรือการลดค่าครองชีพให้ประชาชน อาทิเช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลกระทบจากการลดลงของรายได้ เป็นผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการจับจ่ายสินค้าโดยเลือกการใช้จ่ายกับสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเป็นหลักก่อน ในส่วนของมาตรการ Easy E-Receipt ก็ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายในช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น ส่งผลให้ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากการขายได้ 341.3 ล้านบาท ลดลง 65.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 16.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการลดลงจากยอดขายรายสาขา (Same Store Sales) เป็นหลัก มีกำไรขั้นต้น 168.0 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 50.1 เป็นร้อยละ 49.2 ส่งผลให้มีกำไรเบ็ดเสร็จสำหรับงวดที่ 40.5 ล้านบาทและกำไรต่อหุ้นสำหรับงวดเท่ากับ 0.23 บาทต่อหุ้น
สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมีความเสี่ยงจากสภาวะเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนของสถานการณ์ระหว่างประเทศ ราคาสินค้าบริโภคและอุปโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดีบริษัทมีความพร้อมที่จะปรับกลยุทธ์ตามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เช่น การปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้รับผลกระทบหรือได้รับผลกระทบน้อยจากสถานการณ์ดังกล่าว รวมถึงบริษัทได้มีการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในรูปแบบสาขาและบนแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น และสามารถขยายไปสู่ฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ผ่านการประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ รวมถึงมีการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ นอกจากนี้บริษัทมีสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียนมากพอที่จะใช้ในสภาวะวิกฤตและสถานการณ์ฉุกเฉิน อีกทั้งในส่วนของด้านต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง บริษัทได้มีการบริหารและจัดการให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
2566
2563
ณ วันที่ 29/03/67 | JUBILE | CONSUMP | mai |
---|---|---|---|
P/E (เท่า) | 13.98 | 64.26 | 109.40 |
P/BV (เท่า) | 1.76 | 1.85 | 2.11 |
Dividend yield (%) | 3.07 | 1.05 | 1.80 |
29/03/67 | 28/12/66 | 30/12/65 | |
---|---|---|---|
Market Cap (ลบ.) | 2,840.65 | 3,102.06 | 4,748.94 |
ราคา (บาท/หุ้น) | 16.30 | 17.80 | 27.25 |
P/E (เท่า) | 13.98 | 13.65 | 13.82 |
P/BV (เท่า) | 1.76 | 1.99 | 3.31 |