บมจ. ธนาคารกสิกรไทย ประกอบกิจการธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องตามที่ได้รับอนุญาตไว้ใน พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงินฯ และ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ และประกาศที่เกี่ยวข้อง โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 ธนาคารมีเครือข่ายสาขาในประเทศ 806 สาขา และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์สำหรับทำธุรกรรมด้วยตนเอง 10,667 เครื่องครอบคลุมทุกพื้นที่และเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าและมีเครือข่ายการให้บริการในต่างประเทศรวม 16 แห่ง ใน 8 ประเทศ
| 3M67 | 3M66 | 2566 | 2565 |
|---|
| รายได้ | 79,334.09 | 74,881.46 | 306,529.43 | 271,302.26 |
| ค่าใช้จ่าย | 64,930.83 | 64,311.29 | 262,184.94 | 229,754.37 |
| กำไร (ขาดทุน) สุทธิ | 13,485.72 | 10,741.06 | 42,405.04 | 35,769.49 |
| สินทรัพย์ | 4,318,809.44 | 4,238,083.82 | 4,283,556.38 | 4,246,368.88 |
| หนี้สิน | 3,703,156.06 | 3,661,549.78 | 3,686,721.07 | 3,679,289.45 |
| ส่วนผู้ถือหุ้น | 548,220.24 | 512,421.00 | 532,284.77 | 503,269.88 |
| กิจกรรมดำเนินงาน | 32,041.39 | -7,298.41 | 9,541.31 | 503.93 |
| กิจกรรมลงทุน | -44,331.54 | -22,145.55 | -8,008.37 | 25,777.31 |
| กิจกรรมจัดหาเงิน | -739.20 | 19,847.25 | -9,900.72 | -29,128.21 |
| กำไรต่อหุ้น (บาท) | 5.53 | 4.38 | 17.58 | 14.78 |
| อัตรากำไรขั้นต้น (%) | ||||
| อัตรากำไรสุทธิ (%) | 18.09 | 15.39 | 14.70 | 13.99 |
| D/E Ratio (เท่า) | 6.02 | 6.35 | 6.18 | 6.49 |
| ROE (%) | 9.99 | 8.43 | 8.29 | 7.38 |
| ROA (%) | 1.25 | 1.01 | 0.99 | 0.86 |
สำหรับปี 2567-2569 ธนาคารยังคงยึดมั่นการเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย อันได้แก่ ลูกค้า ผู้ถือหุ้น พนักงานธนาคาร หน่วยงานกำกับดูแล และสังคม ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี ตลอดจนการบริหารความเสี่ยงและการบริหารจัดการต้นทุนที่เหมาะสม ควบคู่กับสร้างวัฒนธรรมองค์กร เพื่อหล่อหลอมทัศนคติและพฤติกรรมของบุคลากรในองค์กรในการมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน ด้วยค่านิยม 5 ประการ ได้แก่ ลูกค้าคือหัวใจ ร่วมมือร่วมใจ ปฏิบัติงานอย่างว่องไวคล่องตัว สรรค์สร้างอย่างยั่งยืน และยึดมั่นในจริยธรรม สำหรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ ธนาคารให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม โดยจัดลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์และกำหนด “ยุทธศาสตร์ 3+1” เป็นยุทธศาสตร์ใหม่ขององค์กร ดังนี้
- ยุทธศาสตร์ที่ 1 ยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพด้านสินเชื่อ
- ยุทธศาสตร์ที่ 2 ขยายธุรกิจรายได้ค่าธรรมเนียมแบบ Capital-Lite
- ยุทธศาสตร์ที่ 3 เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับช่องทางต่าง ๆ ของธนาคาร เพื่อส่งมอบบริการที่มีประสิทธิภาพ
- ยุทธศาสตร์+1 การแสวงหารายได้ใหม่ ทั้งในระยะกลางและระยะยาว ผ่านหน่วยธุรกิจสำคัญที่มีส่วนผลักดันให้ธนาคารไปถึงเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้
ธนาคารดำเนินธุรกิจตามครรลองของการเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน ครอบคลุมทั้ง 3 มิติ ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม: การเป็นผู้พิทักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสังคมคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ด้านสังคม: การเป็นพลเมืองที่รับผิดชอบ เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืน ด้านธรรมาภิบาล/เศรษฐกิจ: การเป็นธนาคารที่รับผิดชอบ เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืน
ROA = กำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของธนาคาร) คำนวณเป็นรายปีหารด้วยสินทรัพย์เฉลี่ย
ROE = กำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของธนาคาร) หักผลตอบแทนของตราสารอื่นที่มีลักษณะคล้ายทุนหลังหักภาษีเงินได้ คำนวณเป็นรายปีหารด้วยส่วนของเจ้าของหักตราสารอื่นที่มีลักษณะคล้ายทุนเฉลี่ย
- ธนาคารเตรียมพร้อมอย่างแข็งแกร่งในทุกด้าน เพื่อผลักดันอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) เป็นเลขสองหลักให้ได้ภายในปี 2569 ธนาคารได้จัดลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ และได้ประกาศแผนยุทธศาสตร์ 3+1 รวมถึงการสร้างศักยภาพในการแข่งขันผ่านปัจจัยสำคัญที่จะเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนทำให้ธนาคารสามารถเดินหน้าได้ตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ได้แก่ การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อยกระดับให้ธนาคารเป็นผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำในระดับภูมิภาค การพัฒนาความสามารถในการวิเคราะห์และการใช้ข้อมูล เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและประสิทธิภาพการดำเนินงาน รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีศักยภาพ ด้วยรูปแบบการทำงานที่เห็นผลลัพธ์เป็นหัวใจ
- การดำเนินงานตามกรอบการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนของธนาคารได้รับการจัดอันดับในรายงานประจำปีด้านความยั่งยืนประจำปี 2567 โดยมีคะแนน S&P Global ESG Score ที่ระดับสูงสุด 5% ในกลุ่มธุรกิจธนาคาร และเป็นสมาชิก DJSI ทั้งระดับโลกและกลุ่มตลาดเกิดใหม่ เป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน จาก S&P Global และอยู่ใน "A List" (Leadership Level) จาก Carbon Disclosure Project (CDP) เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 13,486 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 43.65 แม้ว่า รายได้จากการดำเนินงานสุทธิลดลงเล็กน้อย แต่เนื่องจากค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลงตามฤดูกาลและการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to Income Ratio) ลดลงมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 41.30 นอกจากนี้ การตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss: ECL) มีจำนวน 11,684 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13.91 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมเพียงพอกับสถานการณ์ปัจจุบัน สอดคล้องกับหลักความระมัดระวังและสามารถรองรับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 ธนาคารมีอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) อยู่ที่ระดับร้อยละ 150.35 สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั้งสิ้นตามหลักเกณฑ์ Basel lll ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทย อยู่ที่ระดับร้อยละ 19.37 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
- ผลักดันการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อที่มีคุณภาพ โดยมุ่งเน้นให้สินเชื่อประเภทมีหลักประกัน และกลุ่มลูกค้าที่มีระดับรายได้สูงขึ้น รวมถึงรักษาฐานลูกค้าที่มีคุณภาพ ร่วมกับขยายฐานลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพจากการใช้ข้อมูลมาวิเคราะห์ ซึ่งทำให้อัตราการเข้าถึงลูกค้าสินเชื่อใหม่ในกลุ่มที่มีรายได้ระดับกลางถึงสูงเป็นไปตามเป้าหมายของธนาคาร
- บลจ. กสิกรไทย ร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ J.P. Morgan Asset Management (JPMAM) เพื่อพัฒนานวัตกรรมการลงทุนที่ขยายขีดความสามารถในการคัดเลือกและจัดสรรสินทรัพย์ลงทุนทั่วโลกอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับลอมบาร์ด โอเดียร์ (Lombard Odier) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนเพื่อความยั่งยืน
- รักษาความเป็นผู้นำในด้านดิจิทัลแบงกิ้ง ในส่วนของ K PLUS มีขยายขอบเขตการชำระเงินดิจิทัลผ่านการโอนเงินต่างประเทศ ครอบคลุมมากกว่า 150 ประเทศ และนำเสนอบริการชำระเงินรูปแบบใหม่สแกนจ่ายคิวอาร์โค้ดด้วยบัตรเครดิตกสิกรไทย เริ่มให้บริการเดือนมีนาคม 2567
- อนุมัติแผนกลยุทธ์การดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพ ภูมิอากาศ ประจำปี 2567 เพื่อตอกย้ำแผนการดำเนินงานสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ และสนับสนุนภาคธุรกิจในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ตั้งเป้าการส่งมอบสินเชื่อและเงินลงทุนด้านความยั่งยืนที่จะไปสู่ยอดสะสม 1 แสนล้านบาท ในปีนี้
ธนาคารตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิผลและทันต่อสถานการณ์ จึงดำเนินการพัฒนาและทบทวนนโยบาย เครื่องมือ และกระบวนการในการบริหารความเสี่ยงด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถรองรับความเสี่ยงที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามความผันผวนของตลาด รวมทั้งมีการบริหารจัดการที่เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของหลักเกณฑ์ทางการ ความเสี่ยงรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้น และสถานการณ์ธุรกิจในปัจจุบัน
| ณ วันที่ 29/03/67 | KBANK | BANK | SET |
|---|---|---|---|
| P/E (เท่า) | 6.93 | 7.45 | 18.10 |
| P/BV (เท่า) | 0.55 | 0.64 | 1.33 |
| Dividend yield (%) | 5.24 | 5.81 | 3.38 |
| 29/03/67 | 28/12/66 | 30/12/65 | |
|---|---|---|---|
| Market Cap (ลบ.) | 293,796.62 | 319,859.23 | 349,475.82 |
| ราคา (บาท/หุ้น) | 124.00 | 135.00 | 147.50 |
| P/E (เท่า) | 6.93 | 8.83 | 8.23 |
| P/BV (เท่า) | 0.55 | 0.61 | 0.70 |
