ประกอบธุรกิจหลักด้านบัตรเครดิต ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจร้านค้ารับบัตร การให้บริการรับชำระเงินแทน และธุรกิจสินเชื่อบุคคล ซึ่งครอบคลุมไปถึงสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ และสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน นอกจากนี้ เพื่อให้บริษัทมีการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและสังคม บริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินซึ่งครอบคลุม ธุรกิจสินเชื่อรายย่อยสำหรับการประกอบอาชีพ ธุรกิจเงินอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจเช่าซื้อและธุรกิจลีสซิ่ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในการสร้างผลตอบแทนระยะยาวอย่างยั่งยืน
3M67 | 3M66 | 2566 | 2565 |
---|
รายได้ | 6,763.00 | 6,054.92 | 25,418.46 | 23,231.34 |
ค่าใช้จ่าย | 4,052.35 | 3,351.19 | 14,694.71 | 12,984.89 |
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ | 1,803.00 | 1,871.71 | 7,295.39 | 7,079.40 |
สินทรัพย์ | 106,434.26 | 100,219.96 | 112,813.68 | 101,795.99 |
หนี้สิน | 68,796.26 | 66,778.07 | 76,968.20 | 70,220.24 |
ส่วนผู้ถือหุ้น | 37,484.57 | 33,224.93 | 35,681.57 | 31,353.22 |
กิจกรรมดำเนินงาน | 5,395.34 | 2,060.28 | 2,102.98 | -4,277.20 |
กิจกรรมลงทุน | 70.68 | -63.19 | -348.92 | -225.72 |
กิจกรรมจัดหาเงิน | -7,157.76 | -2,473.81 | 1,407.75 | 4,321.97 |
กำไรต่อหุ้น (บาท) | 0.70 | 0.73 | 2.83 | 2.75 |
อัตรากำไรขั้นต้น (%) | ||||
อัตรากำไรสุทธิ (%) | 26.66 | 30.91 | 28.70 | 30.47 |
D/E Ratio (เท่า) | 1.83 | 2.00 | 2.15 | 2.22 |
ROE (%) | 19.71 | 23.19 | 21.77 | 24.33 |
ROA (%) | 6.58 | 7.41 | 6.80 | 7.40 |
ทิศทางการดำเนินงานในปี 2567 KTC ได้วางเป้าหมายขยายการเติบโต ใน 3 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อ KTC PROUD และ KTC P BERM Car for Cash สานต่อวิสัยทัศน์และความสำเร็จที่ผ่านมา โดยมุ่งพัฒนา 3 มิติหลัก คือ คน กระบวนการ และเทคโนโลยี พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์และบริการ โดยใช้เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) และ RPA (Robotic Process Automation) เข้ามาทำงานร่วมกับคนแบบไร้รอยต่อ พร้อมตั้งเป้าธุรกิจให้มีผลกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการควบคุมคุณภาพพอร์ตเป็นสำคัญ และไม่ชักจูงให้สมาชิกมีภาระหนี้ที่เกินความจำเป็น สอดคล้องกับแนวทางการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Lending) ของธปท. อีกทั้งยังเน้นสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า สร้างคุณค่าร่วม (Co-creating value) กับพันธมิตรเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิก นอกจากนี้ KTC มุ่งบริหารธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และสานต่อวัฒนธรรมองค์กรที่ดีของบริษัท รวมทั้งปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรแห่งความไว้วางใจ (Trusted Organization) เพื่อตอบโจทย์และสร้างความไว้วางใจแก่ผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
บริษัทได้จัดทำกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนระยะยาว 5 ปี ซึ่งครอบคลุมประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนใน 3 มิติ ได้แก่ กลยุทธ์มิติเศรษฐกิจ (Better Product and Service) กลยุทธ์มิติสังคม (Better Quality of Life) และกลยุทธ์มิติสิ่งแวดล้อม (Better Climate) ซึ่งบริษัทได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการ สร้างประสบการณ์ที่ดี และสร้างความไว้วางใจให้เกิดแก่สมาชิกและผู้มีส่วนได้เสียบนมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล นำไปสู่การสร้างโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน ให้แก่คนในสังคมได้อย่างทั่วถึง และบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
KTC มีกลยุทธ์ในปี 2566 ที่มุ่งเน้นการบริหารพอร์ตสมาชิกใน 3 ธุรกิจหลักให้มีคุณภาพที่ดีพร้อมกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เน้นทำการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ รวมถึงการขยายฐานสมาชิกเพื่อให้ธุรกิจเติบโตภายใต้กรอบแห่งความยั่งยืน
• บริษัทมีกำไรสุทธิใน 1Q/2567 เป็นจำนวน 1,803 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% จาก Q4/2566 ที่มีจำนวน 1,761 ล้านบาท
• มูลค่าพอร์ตสินเชื่อรวม 1Q/2567 เท่ากับ 105,347 ล้านบาท ขยายตัว 2.0% (YoY) ขณะที่ ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตร ขยายตัว 8.5% (YoY)
• %NPL ของกลุ่มบริษัทอยู่ที่ 2.0% ลดลงจากสิ้นปี 2566 ที่ 2.2%
• รายได้รวมเติบโตที่ 11.7% (YoY) ขณะที่ ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 20.4% (YoY) ตามการขยายตัวของปริมาณธุรกรรม รวมถึงมูลค่าการตัดหนี้สูญที่มากขึ้นจากการเปลี่ยนกรอบเวลาการตัดหนี้สูญให้เร็วขึ้น เพื่อให้พอร์ตสินเชื่อรวมภายหลังสิ้นสุดการใช้เกณฑ์ผ่อนปรนการจัดชั้นลูกหนี้ NPL สะท้อนภาพความเป็นจริงมากขึ้น
บริษัทกำหนดนโยบายการบริหารความเสี่ยง ที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบบริหารความเสี่ยงตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี ครอบคลุมการบริหารความเสี่ยงทุกด้านที่สำคัญ ผ่านการดำเนินการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง มีหน่วยงานที่รับผิดชอบงานด้านการบริหารความเสี่ยง โดยมีคณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยง (Risk Management Committee: RMC) ซึ่งประกอบด้วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหารสายงานหลัก กำกับดูแลการบริหารความเสี่ยงขององค์กรให้เป็นไปตามเป้าหมาย มีสายงานกำกับกฎระเบียบและข้อบังคับ ทำหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนด และตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี อีกทั้งมีสายงานตรวจสอบภายในทำหน้าที่สอบทานการปฏิบัติตามกระบวนการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้มั่นใจว่าระบบการบริหารจัดการความเสี่ยงถูกนำมาใช้อย่างเหมาะสม
ณ วันที่ 29/03/67 | KTC | FIN | SET |
---|---|---|---|
P/E (เท่า) | 16.17 | 18.42 | 18.10 |
P/BV (เท่า) | 3.31 | 1.65 | 1.33 |
Dividend yield (%) | 2.78 | 1.92 | 3.38 |
29/03/67 | 28/12/66 | 30/12/65 | |
---|---|---|---|
Market Cap (ลบ.) | 117,958.78 | 112,157.53 | 152,121.71 |
ราคา (บาท/หุ้น) | 45.75 | 43.50 | 59.00 |
P/E (เท่า) | 16.17 | 15.58 | 22.84 |
P/BV (เท่า) | 3.31 | 3.31 | 5.13 |