KTC : บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
3M/2567 (ม.ค. - มี.ค. 2567)
ภาพรวมธุรกิจ

ประกอบธุรกิจหลักด้านบัตรเครดิต ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจร้านค้ารับบัตร การให้บริการรับชำระเงินแทน และธุรกิจสินเชื่อบุคคล ซึ่งครอบคลุมไปถึงสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ และสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน นอกจากนี้ เพื่อให้บริษัทมีการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและสังคม บริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินซึ่งครอบคลุม ธุรกิจสินเชื่อรายย่อยสำหรับการประกอบอาชีพ ธุรกิจเงินอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจเช่าซื้อและธุรกิจลีสซิ่ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในการสร้างผลตอบแทนระยะยาวอย่างยั่งยืน  

งบการเงิน
3M67 3M66 2566 2565
งบกำไรขาดทุน (ลบ.)
รายได้ 6,763.00 6,054.92 25,418.46 23,231.34
ค่าใช้จ่าย 4,052.35 3,351.19 14,694.71 12,984.89
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 1,803.00 1,871.71 7,295.39 7,079.40
งบแสดงฐานะทางการเงิน (ลบ.)
สินทรัพย์ 106,434.26 100,219.96 112,813.68 101,795.99
หนี้สิน 68,796.26 66,778.07 76,968.20 70,220.24
ส่วนผู้ถือหุ้น 37,484.57 33,224.93 35,681.57 31,353.22
งบกระแสเงินสด (ลบ.)
กิจกรรมดำเนินงาน 5,395.34 2,060.28 2,102.98 -4,277.20
กิจกรรมลงทุน 70.68 -63.19 -348.92 -225.72
กิจกรรมจัดหาเงิน -7,157.76 -2,473.81 1,407.75 4,321.97
อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ
กำไรต่อหุ้น (บาท) 0.70 0.73 2.83 2.75
อัตรากำไรขั้นต้น (%)        
อัตรากำไรสุทธิ (%) 26.66 30.91 28.70 30.47
D/E Ratio (เท่า) 1.83 2.00 2.15 2.22
ROE (%) 19.71 23.19 21.77 24.33
ROA (%) 6.58 7.41 6.80 7.40
แผนธุรกิจ

ทิศทางการดำเนินงานในปี 2567 KTC ได้วางเป้าหมายขยายการเติบโต ใน 3 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อ KTC PROUD และ KTC P BERM Car for Cash สานต่อวิสัยทัศน์และความสำเร็จที่ผ่านมา โดยมุ่งพัฒนา 3 มิติหลัก คือ คน กระบวนการ และเทคโนโลยี พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์และบริการ โดยใช้เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) และ RPA (Robotic Process Automation) เข้ามาทำงานร่วมกับคนแบบไร้รอยต่อ พร้อมตั้งเป้าธุรกิจให้มีผลกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการควบคุมคุณภาพพอร์ตเป็นสำคัญ และไม่ชักจูงให้สมาชิกมีภาระหนี้ที่เกินความจำเป็น สอดคล้องกับแนวทางการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Lending) ของธปท. อีกทั้งยังเน้นสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า สร้างคุณค่าร่วม (Co-creating value) กับพันธมิตรเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิก นอกจากนี้ KTC มุ่งบริหารธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และสานต่อวัฒนธรรมองค์กรที่ดีของบริษัท รวมทั้งปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรแห่งความไว้วางใจ (Trusted Organization) เพื่อตอบโจทย์และสร้างความไว้วางใจแก่ผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

แผนการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน

บริษัทได้จัดทำกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนระยะยาว 5 ปี ซึ่งครอบคลุมประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนใน 3 มิติ ได้แก่ กลยุทธ์มิติเศรษฐกิจ (Better Product and Service) กลยุทธ์มิติสังคม (Better Quality of Life) และกลยุทธ์มิติสิ่งแวดล้อม (Better Climate) ซึ่งบริษัทได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการ สร้างประสบการณ์ที่ดี และสร้างความไว้วางใจให้เกิดแก่สมาชิกและผู้มีส่วนได้เสียบนมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล นำไปสู่การสร้างโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน ให้แก่คนในสังคมได้อย่างทั่วถึง และบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน 

Highlight ที่น่าสนใจของบริษัท

KTC มีกลยุทธ์ในปี 2566 ที่มุ่งเน้นการบริหารพอร์ตสมาชิกใน 3 ธุรกิจหลักให้มีคุณภาพที่ดีพร้อมกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เน้นทำการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ รวมถึงการขยายฐานสมาชิกเพื่อให้ธุรกิจเติบโตภายใต้กรอบแห่งความยั่งยืน

การวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน
สรุปผลการดำเนินงาน

• บริษัทมีกำไรสุทธิใน 1Q/2567 เป็นจำนวน 1,803 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% จาก Q4/2566 ที่มีจำนวน 1,761 ล้านบาท 

• มูลค่าพอร์ตสินเชื่อรวม 1Q/2567 เท่ากับ 105,347 ล้านบาท ขยายตัว 2.0% (YoY) ขณะที่ ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตร ขยายตัว 8.5% (YoY)

• %NPL ของกลุ่มบริษัทอยู่ที่ 2.0% ลดลงจากสิ้นปี 2566 ที่ 2.2%

• รายได้รวมเติบโตที่ 11.7% (YoY) ขณะที่ ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 20.4% (YoY) ตามการขยายตัวของปริมาณธุรกรรม รวมถึงมูลค่าการตัดหนี้สูญที่มากขึ้นจากการเปลี่ยนกรอบเวลาการตัดหนี้สูญให้เร็วขึ้น เพื่อให้พอร์ตสินเชื่อรวมภายหลังสิ้นสุดการใช้เกณฑ์ผ่อนปรนการจัดชั้นลูกหนี้ NPL สะท้อนภาพความเป็นจริงมากขึ้น

พัฒนาการที่สำคัญ
  • ออกบัตร KTC DIGITAL CREDIT CARD ที่มี Dynamic CVV รหัสหลังบัตรซึ่งเปลี่ยนทุกครั้ง โดยสามารถควบคุมการใช้งานผ่านแอป KTC Mobile
  • ออกบัตรกดเงินสด "KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน" พร้อมฟังก์ชั่น รูด-โอน-กด ด้วยจุดเด่น กู้ง่าย อนุมัติไว ภายใน 1 ชม. ไม่มีค่าธรรมเนียม รวมทั้งเปิดตัว “สินเชื่อทะเบียนรถบิ๊กไบค์ เคทีซี พี่เบิ้ม” เจาะกลุ่มเจ้าของ บิ๊กไบค์ 5 แบรนด์ชั้นนำ วงเงินสูง พร้อมทั้งสร้างความแข็งแกร่งใน Brand Awareness ผ่านช่องทาง Social Media ต่างๆ
  • เคทีซีร่วมกับมาสเตอร์การ์ด สร้างมิติใหม่ของบัตรกดเงินสดครั้งแรกในไทย “เคทีซี พราว มาสเตอร์การ์ด” ครบฟังก์ชัน รูด-โอน-กด-ผ่อน
แนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงที่สำคัญ

บริษัทกำหนดนโยบายการบริหารความเสี่ยง ที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบบริหารความเสี่ยงตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี ครอบคลุมการบริหารความเสี่ยงทุกด้านที่สำคัญ ผ่านการดำเนินการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง มีหน่วยงานที่รับผิดชอบงานด้านการบริหารความเสี่ยง โดยมีคณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยง (Risk Management Committee: RMC) ซึ่งประกอบด้วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหารสายงานหลัก กำกับดูแลการบริหารความเสี่ยงขององค์กรให้เป็นไปตามเป้าหมาย มีสายงานกำกับกฎระเบียบและข้อบังคับ ทำหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนด และตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี อีกทั้งมีสายงานตรวจสอบภายในทำหน้าที่สอบทานการปฏิบัติตามกระบวนการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้มั่นใจว่าระบบการบริหารจัดการความเสี่ยงถูกนำมาใช้อย่างเหมาะสม

รางวัลและความสำเร็จที่ผ่านมาของบริษัท
  • ได้รับรางวัล Business+ Product Innovation Awards 2024 จากนิตยสาร Business+ ร่วมกับ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยในการรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิต: Acquiring Service (The Payment Card Industry Data Security Standard - PCI DSS) จากสถาบันรับรองมาตรฐานแห่งชาติของประเทศอังกฤษ (BSI) ในปี 2567
  • ได้รับรางวัล "Champion Security Award 2023, Best in Class in Risk Management" โดยวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ในปี 2566
  • ได้รับรางวัลนวัตกรรมเทคโนโลยียอดเยี่ยม (Huawei Connect 2023)
  • ได้ใบรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2013 (ISMS) ตั้งแต่ปี 2562 และใบรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27701:2019 ตั้งแต่ปี 2563
  • ได้รับการประเมิน SET ESG Ratings "AAA" ในปี 2566 และเป็นสมาชิกของดัชนี SET ESG ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน
  • ได้รับคัดเลือกให้อยู่ใน The S&P Global Sustainability Yearbook 2024
  • ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนระดับโลก FTSE4Good Index ในกลุ่ม Financial Services ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 (2564-2566)
  •  MSCI ESG Rating ระดับ BBB และได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก MSCI Global Standard Index ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน
  • ได้รับรางวัล Outstanding IR – กลุ่ม ธุรกิจการเงิน (IAA Awards for listed Companies 2565-2566)
โครงสร้างรายได้ตามประเภทธุรกิจ
บัตรเครดิต 61.9% สินเชื่อบุคคล 36.8% สินเชื่อตามสัญญาเช่า 1.3%
ข้อมูลหลักทรัพย์
SET / FINCIAL / FIN
ราคาปิด KTC SET index 60.00 48.00 36.00 1625.00 1511.00 1397.00 1283.00 3-4-66 7-7-66 4-10-66 4-1-67 29-3-67
ณ วันที่ 29/03/67 KTC FIN SET
P/E (เท่า) 16.17 18.42 18.10
P/BV (เท่า) 3.31 1.65 1.33
Dividend yield (%) 2.78 1.92 3.38
29/03/67 28/12/66 30/12/65
Market Cap (ลบ.) 117,958.78 112,157.53 152,121.71
ราคา (บาท/หุ้น) 45.75 43.50 59.00
P/E (เท่า) 16.17 15.58 22.84
P/BV (เท่า) 3.31 3.31 5.13
CG Report:
Company Rating:
AA-
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ณ วันที่ 31/03/2567
ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) (49.29%)
นาย มงคล ประกิตชัยวัฒนา (11.09%)
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด (6.25%)
น.ส. ฉันทนา จิรัฐิติภัทร์ (4.51%)
UBS AG SINGAPORE BRANCH (4.05%)
อื่น ๆ (24.81%)
ช่องทางการติดต่อบริษัท
http://www.ktc.co.th
irktc@ktc.co.th
0-2123-5000, 0-2123-5100
อาคารสมัชชาวาณิช 2 ชั้น 14, 591 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
ข้อมูลการซื้อขายอื่น ๆ : https://www.settrade.com/C04_01_stock_quote_p1.jsp?txtSymbol=KTC
หมายเหตุ : เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทจดทะเบียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนแก่ผู้ลงทุนเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น บริษัทจดทะเบียนไม่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนใด ๆ ในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน โดยก่อนการตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและควรขอรับคำปรึกษาจากผู้ประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายหรือสูญหายจากการนำข้อมูลที่ปรากฏนี้ไปใช้ในทุกกรณี และบริษัทจดทะเบียนสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า รวมทั้งห้ามไม่ให้ผู้ใดนำเอกสารหรือข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ไปทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากบริษัทจดทะเบียนก่อน หากผู้ลงทุนมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลของบริษัท สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากรายงานหรือสารสนเทศที่บริษัทได้เผยแพร่ผ่านช่องทางของสำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และ/หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย