THANI : บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)
3M/2567 (ม.ค. - มี.ค. 2567)
ภาพรวมธุรกิจ

บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อเช่าการเงินโดยมุ่งเน้นไปยังประเภทรถที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ ได้แก่ รถเพื่อการพาณิชย์ทั้งใหม่และเก่า เช่น รถบรรทุก รถหัวลาก ฯลฯ รวมถึงรถยนต์นั่งส่วนบุคคล นอกจากนี้ ราชธานีลิสซิ่งยังมีการให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถ สินเชื่อเพื่อผู้จำหน่ายรถยนต์ (Floor Plan) รวมถึงบริการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก 

งบการเงิน
3M67 3M66 2566 2565
งบกำไรขาดทุน (ลบ.)
รายได้ 1,111.31 1,191.05 4,597.39 4,443.39
ค่าใช้จ่าย 363.83 358.91 1,784.32 1,328.74
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 343.19 450.24 1,286.93 1,752.71
งบแสดงฐานะทางการเงิน (ลบ.)
สินทรัพย์ 55,980.83 54,936.93 55,259.63 53,909.26
หนี้สิน 42,952.71 42,125.75 42,574.70 41,548.32
ส่วนผู้ถือหุ้น 13,028.13 12,811.17 12,684.93 12,360.92
งบกระแสเงินสด (ลบ.)
กิจกรรมดำเนินงาน 2,869.36 -104.40 1,785.79 -1,814.26
กิจกรรมลงทุน -0.62 1.72 -0.49 -74.24
กิจกรรมจัดหาเงิน -217.92 65.99 -1,003.38 2,062.72
อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ
กำไรต่อหุ้น (บาท) 0.06 0.08 0.23 0.31
อัตรากำไรขั้นต้น (%)       -
อัตรากำไรสุทธิ (%) 30.88 37.80 27.99 39.45
D/E Ratio (เท่า) 3.30 3.29 3.36 3.36
ROE (%) 10.83 14.51 10.28 14.65
ROA (%) 2.50 3.36 2.36 3.40
แผนธุรกิจ

บริษัทยังคงใช้ความเชี่ยวชาญและความชำนาญของบริษัทในการขยายธุรกิจในอนาคต โดยวางแนวทางการดำเนินงานในช่วง 5 ปีข้างหน้า ดังนี้

1.พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการและความสามารถทางการเงินของลูกค้า

2.ขยายการให้สินเชื่อที่มีหลักประกันในยานพาหนะและทรัพย์สินประเภทอื่น เช่น เครื่องบิน เรือยอร์ช ฯลฯ เพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่มีศักยภาพในตลาด

3.ขยายจำนวนสาขาเพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่

4.พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจและรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี

5.พัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในทุกมิติ เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจในอนาคต

แผนการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน

บริษัทตระหนักถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการบริษัทจึงพิจารณากําหนดนโยบายการจัดการด้านความยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วยแนวนโยบายที่สำคัญ ได้แก่ การจัดการผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ การจัดการความยั่งยืนในมิติสิ่งแวดล้อม การจัดการความยั่งยืนในมิติสังคม และการจัดการความยั่งยืนในมิติบรรษัทภิบาล เพื่อยกระดับคุณภาพการดำเนินงานและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายและคำนึงถึงความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ อันจะนำไปสู่การเพิ่มคุณค่าและมูลค่าของกิจการอย่างยั่งยืน

Highlight ที่น่าสนใจของบริษัท

-บริษัทให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อและเช่าทางการเงินรถเพื่อการพาณิชย์ ยานพาหนะ และทรัพย์สินอื่น รวมถึงบริการที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร

การวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน
สรุปผลการดำเนินงาน

บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิไตรมาสแรกของปี 2567 จำนวน 343.19 ลบ. ซึ่งเทียบเป็นอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นหรือ ROE อยู่ที่ร้อยละ 10.83 ปรับตัวดีขึ้นจากร้อยละ 5.07 ในไตรมาส 4/2566 โดยมีรายได้รวม 1,111.31 ลบ.ค่าใช้จ่ายทางการเงิน 315.99 ลบ. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 186.84 ลบ. และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 176.99 ลบ.มีสินทรัพย์รวม 55,980.83 ลบ.หนี้สินรวม 42,952.71 ลบ.และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 13,028.12 ลบ. สำหรับงบการเงินเฉพาะกิจการบริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสแรกของปี 2567 จำนวน 315.56 ลบ. ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 90.87 ลบ.หรือร้อยละ 22.36 สาเหตุมาจากการชะลอตัวลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยซึ่งเป็นไปตามแผนการของบริษัทในการชะลอการเติบโตของสินเชื่อภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงฟื้นตัวอย่างไม่ทั่วถึงโดยเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวัง มีรายได้รวม 1,072.46 ลบ.ลดลง 55.07 ลบ.หรือร้อยละ 4.88 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายทางการเงิน 315.99 ลบ. เพิ่มขึ้น 54.16 ลบ. หรือร้อยละ 20.69 จากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มสูงขึ้นตามการปรับเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยนโยบายผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 176.99 ลบ. ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 4.86 ลบ. หรือร้อยละ 2.67 โดยหลักจากการที่บริษัทได้มุ่งดำเนินการผ่านมาตรการต่างๆในการเร่งบริหารจัดการคุณภาพของสินทรัพย์ ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2567 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 55,789.10 ลบ.เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,161.81 ลบ. หรือร้อยละ 2.13 มีลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อและเช่าทางการเงิน-สุทธิ 49,895.82 ลบ. ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,913.27 ลบ. หรือร้อยละ 5.52 และ สินเชื่อเงินให้กู้ยืม 640.30 ลบ.เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 276.95 ลบ.หรือร้อยละ76.22 ซึ่งสินเชื่อทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 90.58 ของสินทรัพย์รวมขณะที่หนี้สินรวมและส่วนของผู้ถือหุ้นมี 42,884.82 ลบ.และ 12,904.29 ลบ.ตามลำดับเมื่อทำการเปรียบเทียบฐานะการเงินของบริษัท ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2567 กับไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 บริษัทมีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 687.02 ลบ. หรือร้อยละ 1.25 โดยมีลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อ-สุทธิ ลดลง 1,768.67 ลบ.หรือร้อยละ 3.42 และมีสินเชื่อเงินให้กู้ยืม ลดลง 78.46 ลบ.หรือร้อยละ 10.92 ในขณะที่หนี้สินรวมเพิ่มขึ้นจำนวน 371.47 ลบ.หรือร้อยละ 0.87 และส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 315.56 ลบ.หรือร้อยละ 2.51 ตามลำดับ

พัฒนาการที่สำคัญ

บริษัทได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับและสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ โดยในระยะแรกมุ่งเน้นการให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถแก่ลูกค้าเดิมของบริษัท รวมถึงผู้ที่มีความต้องการใช้เงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพและการอุปโภคบริโภค

แนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงที่สำคัญ

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นระบบ จึงปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรที่คำนึงถึงความเสี่ยงผ่านการกำหนดนโยบายการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้การดำเนินธุรกิจบรรลุเป้าหมายการดำเนินงาน สามารถเติบโตและสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายได้อย่างเหมาะสม โดยกำหนดแนวทางและแผนงานตามกระบวนการบริหารความเสี่ยงได้แก่ 1) การระบุความเสี่ยง 2) การวัดและประเมินความเสี่ยง 3) การติดตามและควบคุมความเสี่ยง และ 4) การรายงานสถานะความเสี่ยง เพื่อเป็นแนวปฏิบัติแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องให้สามารถดำเนินการบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งนี้ได้เผยแพร่นโยบายการบริหารความเสี่ยงไว้บนเว็บไซต์บริษัท(www.ratchthani.com/

นักลงทุนสัมพันธ์/การกำกับดูแลกิจการ/นโยบายและแนวปฏิบัติที่สำคัญ) นอกจากนี้ บริษัทได้จัดให้มีโครงสร้างการบริหารความเสี่ยงซึ่งกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ที่เกี่ยวข้องไว้อย่างชัดเจน 

รางวัลและความสำเร็จที่ผ่านมาของบริษัท

-ได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการ ประจำปี 2566 อยู่ในเกณฑ์ “ดีเลิศ” ต่อเนื่องเป็นปีที่หก จากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (Corporate Governance Report of Thai Listed Company : CGR) โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย

-บริษัทได้เข้าร่วมการประเมินความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนประจำปี 2566 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งบริษัทได้รับผลการประเมิน ESG Ratings อยู่ในระดับ "AA"

โครงสร้างรายได้ตามประเภทธุรกิจ
รายได้ดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าซื้อ 77.99% รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 8.77% รายได้ดอกเบี้ยจากสัญญาเงินให้กู้ 1.62% อื่นๆ 11.62%
ข้อมูลหลักทรัพย์
SET / FINCIAL / FIN
ราคาปิด THANI SET index 4.00 2.50 1.00 1625.00 1511.00 1397.00 1283.00 3-4-66 7-7-66 4-10-66 4-1-67 29-3-67
ณ วันที่ 29/03/67 THANI FIN SET
P/E (เท่า) 10.84 18.42 18.10
P/BV (เท่า) 1.10 1.65 1.33
Dividend yield (%) 0.81 1.92 3.38
29/03/67 28/12/66 30/12/65
Market Cap (ลบ.) 12,685.18 14,723.87 23,558.20
ราคา (บาท/หุ้น) 2.24 2.60 4.16
P/E (เท่า) 10.84 9.96 12.71
P/BV (เท่า) 1.10 1.18 1.96
CG Report:
Company Rating:
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ณ วันที่ 01/03/2567
บริษัท ธนชาต เอสพีวี 1 จำกัด (56.84%)
RAFFLES NOMINEES (PTE) LIMITED (5.60%)
บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (3.77%)
บริษัท เจริญสุขเภสัชฮุ่นชิว จำกัด (2.73%)
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด (2.70%)
อื่น ๆ (28.36%)
ช่องทางการติดต่อบริษัท
http://www.ratchthani.com
ir@thani.co.th
02431-9000
อาคารสินสาธรทาวเวอร์ ชั้น 11 UP, 77/35-36 ถนนกรุงธนบุรี แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กทม. 10600
ข้อมูลการซื้อขายอื่น ๆ : https://www.settrade.com/C04_01_stock_quote_p1.jsp?txtSymbol=THANI
หมายเหตุ : เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทจดทะเบียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนแก่ผู้ลงทุนเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น บริษัทจดทะเบียนไม่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนใด ๆ ในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน โดยก่อนการตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและควรขอรับคำปรึกษาจากผู้ประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายหรือสูญหายจากการนำข้อมูลที่ปรากฏนี้ไปใช้ในทุกกรณี และบริษัทจดทะเบียนสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า รวมทั้งห้ามไม่ให้ผู้ใดนำเอกสารหรือข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ไปทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากบริษัทจดทะเบียนก่อน หากผู้ลงทุนมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลของบริษัท สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากรายงานหรือสารสนเทศที่บริษัทได้เผยแพร่ผ่านช่องทางของสำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และ/หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย