บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อเช่าการเงินโดยมุ่งเน้นไปยังประเภทรถที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ ได้แก่ รถเพื่อการพาณิชย์ทั้งใหม่และเก่า เช่น รถบรรทุก รถหัวลาก ฯลฯ รวมถึงรถยนต์นั่งส่วนบุคคล นอกจากนี้ ราชธานีลิสซิ่งยังมีการให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถ สินเชื่อเพื่อผู้จำหน่ายรถยนต์ (Floor Plan) รวมถึงบริการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก
3M67 | 3M66 | 2566 | 2565 |
---|
รายได้ | 1,111.31 | 1,191.05 | 4,597.39 | 4,443.39 |
ค่าใช้จ่าย | 363.83 | 358.91 | 1,784.32 | 1,328.74 |
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ | 343.19 | 450.24 | 1,286.93 | 1,752.71 |
สินทรัพย์ | 55,980.83 | 54,936.93 | 55,259.63 | 53,909.26 |
หนี้สิน | 42,952.71 | 42,125.75 | 42,574.70 | 41,548.32 |
ส่วนผู้ถือหุ้น | 13,028.13 | 12,811.17 | 12,684.93 | 12,360.92 |
กิจกรรมดำเนินงาน | 2,869.36 | -104.40 | 1,785.79 | -1,814.26 |
กิจกรรมลงทุน | -0.62 | 1.72 | -0.49 | -74.24 |
กิจกรรมจัดหาเงิน | -217.92 | 65.99 | -1,003.38 | 2,062.72 |
กำไรต่อหุ้น (บาท) | 0.06 | 0.08 | 0.23 | 0.31 |
อัตรากำไรขั้นต้น (%) | - | |||
อัตรากำไรสุทธิ (%) | 30.88 | 37.80 | 27.99 | 39.45 |
D/E Ratio (เท่า) | 3.30 | 3.29 | 3.36 | 3.36 |
ROE (%) | 10.83 | 14.51 | 10.28 | 14.65 |
ROA (%) | 2.50 | 3.36 | 2.36 | 3.40 |
บริษัทยังคงใช้ความเชี่ยวชาญและความชำนาญของบริษัทในการขยายธุรกิจในอนาคต โดยวางแนวทางการดำเนินงานในช่วง 5 ปีข้างหน้า ดังนี้
1.พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการและความสามารถทางการเงินของลูกค้า
2.ขยายการให้สินเชื่อที่มีหลักประกันในยานพาหนะและทรัพย์สินประเภทอื่น เช่น เครื่องบิน เรือยอร์ช ฯลฯ เพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่มีศักยภาพในตลาด
3.ขยายจำนวนสาขาเพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่
4.พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจและรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี
5.พัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในทุกมิติ เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจในอนาคต
บริษัทตระหนักถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการบริษัทจึงพิจารณากําหนดนโยบายการจัดการด้านความยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วยแนวนโยบายที่สำคัญ ได้แก่ การจัดการผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ การจัดการความยั่งยืนในมิติสิ่งแวดล้อม การจัดการความยั่งยืนในมิติสังคม และการจัดการความยั่งยืนในมิติบรรษัทภิบาล เพื่อยกระดับคุณภาพการดำเนินงานและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายและคำนึงถึงความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ อันจะนำไปสู่การเพิ่มคุณค่าและมูลค่าของกิจการอย่างยั่งยืน
-บริษัทให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อและเช่าทางการเงินรถเพื่อการพาณิชย์ ยานพาหนะ และทรัพย์สินอื่น รวมถึงบริการที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร
บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิไตรมาสแรกของปี 2567 จำนวน 343.19 ลบ. ซึ่งเทียบเป็นอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นหรือ ROE อยู่ที่ร้อยละ 10.83 ปรับตัวดีขึ้นจากร้อยละ 5.07 ในไตรมาส 4/2566 โดยมีรายได้รวม 1,111.31 ลบ.ค่าใช้จ่ายทางการเงิน 315.99 ลบ. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 186.84 ลบ. และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 176.99 ลบ.มีสินทรัพย์รวม 55,980.83 ลบ.หนี้สินรวม 42,952.71 ลบ.และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 13,028.12 ลบ. สำหรับงบการเงินเฉพาะกิจการบริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสแรกของปี 2567 จำนวน 315.56 ลบ. ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 90.87 ลบ.หรือร้อยละ 22.36 สาเหตุมาจากการชะลอตัวลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยซึ่งเป็นไปตามแผนการของบริษัทในการชะลอการเติบโตของสินเชื่อภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงฟื้นตัวอย่างไม่ทั่วถึงโดยเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวัง มีรายได้รวม 1,072.46 ลบ.ลดลง 55.07 ลบ.หรือร้อยละ 4.88 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายทางการเงิน 315.99 ลบ. เพิ่มขึ้น 54.16 ลบ. หรือร้อยละ 20.69 จากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มสูงขึ้นตามการปรับเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยนโยบายผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 176.99 ลบ. ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 4.86 ลบ. หรือร้อยละ 2.67 โดยหลักจากการที่บริษัทได้มุ่งดำเนินการผ่านมาตรการต่างๆในการเร่งบริหารจัดการคุณภาพของสินทรัพย์ ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2567 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 55,789.10 ลบ.เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,161.81 ลบ. หรือร้อยละ 2.13 มีลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อและเช่าทางการเงิน-สุทธิ 49,895.82 ลบ. ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,913.27 ลบ. หรือร้อยละ 5.52 และ สินเชื่อเงินให้กู้ยืม 640.30 ลบ.เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 276.95 ลบ.หรือร้อยละ76.22 ซึ่งสินเชื่อทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 90.58 ของสินทรัพย์รวมขณะที่หนี้สินรวมและส่วนของผู้ถือหุ้นมี 42,884.82 ลบ.และ 12,904.29 ลบ.ตามลำดับเมื่อทำการเปรียบเทียบฐานะการเงินของบริษัท ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2567 กับไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 บริษัทมีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 687.02 ลบ. หรือร้อยละ 1.25 โดยมีลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อ-สุทธิ ลดลง 1,768.67 ลบ.หรือร้อยละ 3.42 และมีสินเชื่อเงินให้กู้ยืม ลดลง 78.46 ลบ.หรือร้อยละ 10.92 ในขณะที่หนี้สินรวมเพิ่มขึ้นจำนวน 371.47 ลบ.หรือร้อยละ 0.87 และส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 315.56 ลบ.หรือร้อยละ 2.51 ตามลำดับ
บริษัทได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับและสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ โดยในระยะแรกมุ่งเน้นการให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถแก่ลูกค้าเดิมของบริษัท รวมถึงผู้ที่มีความต้องการใช้เงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพและการอุปโภคบริโภค
บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นระบบ จึงปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรที่คำนึงถึงความเสี่ยงผ่านการกำหนดนโยบายการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้การดำเนินธุรกิจบรรลุเป้าหมายการดำเนินงาน สามารถเติบโตและสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายได้อย่างเหมาะสม โดยกำหนดแนวทางและแผนงานตามกระบวนการบริหารความเสี่ยงได้แก่ 1) การระบุความเสี่ยง 2) การวัดและประเมินความเสี่ยง 3) การติดตามและควบคุมความเสี่ยง และ 4) การรายงานสถานะความเสี่ยง เพื่อเป็นแนวปฏิบัติแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องให้สามารถดำเนินการบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งนี้ได้เผยแพร่นโยบายการบริหารความเสี่ยงไว้บนเว็บไซต์บริษัท(www.ratchthani.com/
นักลงทุนสัมพันธ์/การกำกับดูแลกิจการ/นโยบายและแนวปฏิบัติที่สำคัญ) นอกจากนี้ บริษัทได้จัดให้มีโครงสร้างการบริหารความเสี่ยงซึ่งกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ที่เกี่ยวข้องไว้อย่างชัดเจน
-ได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการ ประจำปี 2566 อยู่ในเกณฑ์ “ดีเลิศ” ต่อเนื่องเป็นปีที่หก จากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (Corporate Governance Report of Thai Listed Company : CGR) โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
-บริษัทได้เข้าร่วมการประเมินความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนประจำปี 2566 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งบริษัทได้รับผลการประเมิน ESG Ratings อยู่ในระดับ "AA"
ณ วันที่ 29/03/67 | THANI | FIN | SET |
---|---|---|---|
P/E (เท่า) | 10.84 | 18.42 | 18.10 |
P/BV (เท่า) | 1.10 | 1.65 | 1.33 |
Dividend yield (%) | 0.81 | 1.92 | 3.38 |
29/03/67 | 28/12/66 | 30/12/65 | |
---|---|---|---|
Market Cap (ลบ.) | 12,685.18 | 14,723.87 | 23,558.20 |
ราคา (บาท/หุ้น) | 2.24 | 2.60 | 4.16 |
P/E (เท่า) | 10.84 | 9.96 | 12.71 |
P/BV (เท่า) | 1.10 | 1.18 | 1.96 |