แสนสิริเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของประเทศไทย โดยดำเนินธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (เพื่อขายและเพื่อเช่า) ธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์ (ตัวแทนซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ บริหารและจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ และบริหารโรงแรม เป็นต้น) และธุรกิจการลงทุน
| 6M67 | 6M66 | 2566 | 2565 |
|---|
| รายได้ | 19,928.30 | 18,492.65 | 39,082.12 | 34,983.48 |
| ค่าใช้จ่าย | 16,915.59 | 14,585.70 | 31,867.29 | 29,755.26 |
| กำไร (ขาดทุน) สุทธิ | 2,702.03 | 3,202.93 | 6,060.39 | 4,279.88 |
| สินทรัพย์ | 151,763.48 | 139,816.50 | 147,303.35 | 127,451.47 |
| หนี้สิน | 102,368.18 | 92,863.28 | 99,894.87 | 83,410.96 |
| ส่วนผู้ถือหุ้น | 48,070.58 | 45,371.85 | 47,408.48 | 44,041.51 |
| กิจกรรมดำเนินงาน | 4,939.20 | 5,195.18 | 2,795.55 | -674.19 |
| กิจกรรมลงทุน | -1,821.47 | -4,025.88 | -5,706.92 | -1,110.48 |
| กิจกรรมจัดหาเงิน | -3,066.64 | 153.06 | 2,929.47 | 2,340.48 |
| กำไรต่อหุ้น (บาท) | 0.15 | 0.19 | 0.36 | 0.27 |
| อัตรากำไรขั้นต้น (%) | 31.70 | 37.95 | 35.71 | 35.43 |
| อัตรากำไรสุทธิ (%) | 12.95 | 17.80 | 15.51 | 12.23 |
| D/E Ratio (เท่า) | 2.07 | 1.98 | 2.11 | 1.89 |
| ROE (%) | 11.90 | 14.74 | 13.25 | 10.07 |
| ROA (%) | 4.84 | 6.11 | 4.41 | 3.51 |
สำหรับปี 2567 แสนสิริตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 46 โครงการ มูลค่า 61,000 แบ่งเป็นแนวราบ 26 โครงการ มูลค่า 35,000 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 20 โครงการ มูลค่า 26,000 ล้านบาท โดยโครงการใหม่ปีนี้จะขยายไปยังหัวเมืองต่างจังหวัดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเพิ่มขึ้น เช่น ภูเก็ต หัวหิน เชียงใหม่ พัทยา ในสัดส่วน 30% ส่วนที่เหลืออีก 70% เป็นโครงการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
แสนสิริยึดมั่นแนวทางการดำเนินธุรกิจให้มั่นคง และเติบโตอย่างยั่งยืนตามนโยบาย "Sansiri Sustainability Mission" ที่ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยการประกาศเป้าหมายสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-zero) ภายในปี 2050 ซึ่งเราดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ 3P ประกอบด้วย
- PROFIT: ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและมีจริยธรรม ภายใต้การกำกับดูแลที่ดี
- PEOPLE: ดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคม เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชน และส่งเสริมในเรื่องสิทธิการเข้าถึงโอกาสให้กับกลุ่มเด็กและเยาวชน ผ่านการริเริ่มโครงการ Zero Dropout
- PLANET: เดินหน้าพันธกิจสีเขียว ผ่านกระบวนการขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ที่มีการตั้งมาตรฐานด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มุ่งใช้พลังงานทดแทนหรือพลังงานสะอาด
- แสนสิริมีประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 40 ปี มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทและระดับราคา การออกแบบแต่ละโครงการอิงจากความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลางภายใต้แนวคิด YOU-Centric
- แสนสิริเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร มีทั้งการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์หลังการขาย โดยให้บริการผ่านบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ
- มีแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ในพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์โครงการระดับบนใน Sansiri Luxury Collection อาทิ บ้านแสนสิริ นาราสิริ บูก้าน หรือคอนโดมิเนียมในระดับตำนาน 98 wireless
- ไตรมาส 2 ปี 2567 แสนสิริมีรายได้รวม 9,615 ล้านบาท ลดลง 4% YoY โดยรายได้จากการขายโครงการเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ คิดเป็นสัดส่วน 88% ของรายได้รวม หรือ 8,486 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% YoY ในด้านของต้นทุนโครงการเพื่อขาย เพิ่มขึ้น 4% YoY เป็น 5,672 ล้านบาท ตามการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายโครงการ อย่างไรก็ดี กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 3,199 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขึ้นต้น 33.3% ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารเทียบกับรายได้รวมอยู่ที่ 18.7% ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้า โตขึ้น 237% YoY เป็น 221 ล้านบาท จากการเริ่มโอนกรรมสิทธิ์โครงการร่วมทุน เดอะ ไลน์ ไวบ์ ในไตรมาสนี้ ทั้งนี้ กำไรสุทธิ มีจำนวน 1,387 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 14.4%
- แสนสิริมีอัตราส่วนหนี้สินเฉพาะส่วนที่มีดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Gearing Ratio) อยู่ที่ 1.62 เท่า โดยยังคงสามารถดำรงอัตราส่วนทางการเงินได้ตามที่กำหนดไว้ในกรณีที่ออกตราสารหนี้ ที่กำหนดให้ Gearing Ratio ไม่เกินกว่า 2.5 เท่า
- เปิดโครงการใหม่ 13 โครงการ มูลค่า 13,310 ล้านบาท มีโครงการไฮไลต์ อาทิ เดอะ สแตนดาร์ด เรสซิเด้นซ์ หัวหิน คอนโดมิเนียมติดชายหาดหัวหิน และเมคิน เฮ้าส์ ใจกลางเมืองเชียงใหม่
- เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ได้แก่ เอลซ์ บ้านเดี่ยวรูปแบบใหม่ จำนวนยูนิตน้อย ความเป็นส่วนตัวสูง และพินน์คอนโดมิเนียมขนาดเล็ก ทำเลใกล้เมืองพร้อมเลย์เอาท์ห้องที่มีขนาดใหญ่
- เริ่มโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม 2 โครงการใหญ่ ได้แก่ โครงการเดอะ เบส ไฮท์ - เชียงใหม่ และโครงการเดอะ ไลน์ ไวบ์
บริษัทฯ กำหนดกระบวนการในการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ โดยได้นำกรอบการบริหารความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กรเชิงบูรณาการตามมาตรฐานสากล (COSO Enterprise Risk Management) มาประยุกต์เป็นแนวทางในการบริหารจัดการความเสี่ยง โดยมีหน่วยงานบริหารความเสี่ยงทำหน้าที่ในการกำกับดูแลความเสี่ยงอย่างเป็นอิสระ มีการประเมินความเสี่ยงทั้งในระดับองค์กร (Corporate Risk) และระดับหน่วยงาน (Departmental Risk) รวมถึงมีการวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ได้แก่ ด้านกลยุทธ์ ด้านการปฏิบัติการ ด้านการเงิน ด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) รวมถึงด้านการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี ทั้งนี้เพื่อกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการความเสี่ยง และควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่องค์กรยอมรับได้ ตลอดจนมีการติดตามและรายงานผลการบริหารความเสี่ยงต่อคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ
- ได้รับคัดเลือกเข้าเป็นสมาชิกของดัชนี SET100 และ SETHD
- ได้รับการประเมินติดอันดับหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings 2566 ที่ระดับ AA โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- ได้รับการประเมินให้เป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่ามากสุดเป็นอันดับ 1 ประจำปี 2566 จัดทำโดยบารามีซี่ กรุ๊ป และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน Fortune Southeast Asia 500 ซึ่งเป็นการจัดอันดับบริษัทที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจมากที่สุด 500 แห่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยนิตยสารฟอร์จูน
- แบรนด์หมวดอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั่วประเทศ ทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม จากงาน Marketeer No.1 Brand Thailand 2024
| ณ วันที่ 28/06/67 | SIRI | PROP | SET |
|---|---|---|---|
| P/E (เท่า) | 4.96 | 13.45 | 17.05 |
| P/BV (เท่า) | 0.60 | 0.97 | 1.22 |
| Dividend yield (%) | 11.53 | 4.59 | 3.53 |
| 28/06/67 | 28/12/66 | 30/12/65 | |
|---|---|---|---|
| Market Cap (ลบ.) | 28,750.49 | 29,180.72 | 26,264.70 |
| ราคา (บาท/หุ้น) | 1.67 | 1.77 | 1.76 |
| P/E (เท่า) | 4.96 | 4.45 | 9.28 |
| P/BV (เท่า) | 0.60 | 0.64 | 0.65 |
