CREDIT : ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน)
9M/2567 (ม.ค. - ก.ย. 2567)
ภาพรวมธุรกิจ

ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจเป็นธนาคารพาณิชย์มากว่า 18 ปี ให้บริการด้านการเงินและการลงทุนอย่างครบวงจร โดยมุ่งเน้นการให้บริการสินเชื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี (MSME) และสินเชื่อนาโนและไมโครเครดิตเพื่อธุรกิจรายย่อย (Nano and Micro Finance) แก่กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศ แต่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน รวมถึงให้บริการสินเชื่อบ้าน (Home Loan) และช่องทางธุรกรรมการเงินดิจิทัล (Digital Platform)

งบการเงิน
9M67 9M66 2566 2565
งบกำไรขาดทุน (ลบ.)
รายได้ 13,932.63 12,135.42 16,604.31 13,451.43
ค่าใช้จ่าย 10,878.76 8,615.22 12,145.40 10,491.59
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 2,431.59 2,816.66 3,556.78 2,352.52
งบแสดงฐานะทางการเงิน (ลบ.)
สินทรัพย์ 175,105.07 159,766.21 163,444.33 143,189.47
หนี้สิน 153,240.61 142,959.04 145,939.20 128,807.89
ส่วนผู้ถือหุ้น 21,864.46 16,807.17 17,505.13 14,381.58
งบกระแสเงินสด (ลบ.)
กิจกรรมดำเนินงาน -1,621.67 -3,649.77 -4,286.36 -3,999.52
กิจกรรมลงทุน -105.45 -1,320.97 -357.13 2,634.15
กิจกรรมจัดหาเงิน 1,649.99 4,857.58 4,652.85 1,405.04
อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ
กำไรต่อหุ้น (บาท) 1.99 2.42 3.05 4.56
อัตรากำไรขั้นต้น (%)        
อัตรากำไรสุทธิ (%) 17.45 23.21 21.42 17.49
D/E Ratio (เท่า) 7.01 8.51 8.34 8.96
ROE (%) 16.40 20.29 22.31 16.36
ROA (%) 4.31 4.08 4.58 3.21
แผนธุรกิจ

ธนาคารไทยเครดิตมุ่งมั่นสู่การเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มลูกค้ารายย่อยด้วยรูปแบบธุรกิจที่แตกต่างและสามารถตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของประชาชนคนไทยทุกภูมิภาค โดยกลยุทธ์หลักในปี 2567 ยังคงเน้นไปที่ 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1) การเติบโตของสินเชื่อหลัก 2) การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ และ 3) การพัฒนาธุรกิจใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับแผนการดำเนินงานของธนาคารในระยะยาว เพื่อการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพและรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ในปี 2567 ธนาคารไทยเครดิตตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อเป็นเลขสองหลัก ส่วนต่างรายได้อัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปรับเพิ่มขึ้นที่ 8.5-9.0% อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้คงที่ และเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (%NPLs) ที่น้อยกว่า 4.5% อย่างไรก็ตามธนาคารมีการปล่อยสินเชื่อแบบระมัดระวังมากขึ้น รวมถึงติดตามคุณภาพพอร์ตสินเชื่อและความสามารถในการชำระหนี้อย่างรอบคอบ และใช้ประโยชน์จากการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม รักษาความมั่นคงทางการเงินของธนาคารฯ และเพิ่มความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในอนาคต

แผนการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน

ไทยเครดิตเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ยึดมั่นในวิสัยทัศน์และพันธกิจที่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้บริการทางการเงินที่ดีที่สุด เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าเติบโตทางธุรกิจ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วยบริการไมโครไฟแนนซ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของธนาคารฯ และยกระดับชีวิตทางการเงินได้อย่างยั่งยืน รวมถึงมีส่วนช่วยเหลือเศรษฐกิจและสังคม ตามปรัชญาการดำเนินธุรกิจ "Everyone Matters ทุกคนคือคนสำคัญ"

1. ธนาคารฯ สานต่อ โครงการตังค์โต Know-How ปีที่ 8 โดยในช่วง 9M/2567 มีผู้เข้าอบรมกว่า 52,085 คน ผ่านศูนย์การเรียนรู้ ระบบออนไลน์และการจัดอบรมนอกสถานที่

2. ธนาคารฯ  มุ่งผลักดันสังคมสีเขียว เปิดตัวสินเชื่อ Green Loan "SME กล้าให้ กล้าเปลี่ยน" สินเชื่อที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนธุรกิจไมโครเอสเอ็มอีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือต้องการลงทุนปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ ให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม


Highlight ที่น่าสนใจของบริษัท

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3Q/2567 ธนาคารฯ มีกำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดใหม่เท่ากับ 1,161.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 41.7% QoQ หรือ 13.8% YoY ปัจจัยหลักจากการขยายตัวของเงินให้สินเชื่ออย่างแข็งแกร่ง ยอดเงินให้สินเชื่อ ณ 3Q/2567 อยู่ที่ 157,604.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8% YoY นอกจากนี้ ธนาคารฯ ยังมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 12.2% ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของเงินให้สินเชื่อ ในส่วนของการควบคุมค่าใช้จ่าย ธนาคารฯ ยังคงรักษาอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้ให้อยู่ในระดับต่ำที่ 38.8% ในงวด 9M/2567

ทั้งนี้อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin) ใน 3Q/2567 อยู่ที่ 8.7% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 2Q/2567 ขณะที่ในงวด 9M/2567 อัตราส่วนดังกล่าวอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 8.6% อย่างไรก็ตามธนาคารฯ ยังคงดำเนินงานอย่างรัดกุมเพื่อรองรับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

การวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน
สรุปผลการดำเนินงาน

รายได้ดอกเบี้ยของธนาคารฯ ใน 3Q/2567 ของธนาคารฯ เพิ่มขึ้น 1.8% QoQ เป็น 4,614.2 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้ที่เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากปริมาณเงินให้สินเชื่อที่เติบโตเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อหลักของธนาคารฯ โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี และสินเชื่อบ้านแลกเงิน 

ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของธนาคารฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 2.0% QoQ เป็น 864.6 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจากเงินรับฝากที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากอักตราดอกเบี้ยเงินฝากโดยรวมเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะโปรแกรมเงินฝากออมทรัพย์อัลฟา รวมถึงเงินฝากประจำและเงินฝากประจำทันใจ

นอกจากนี้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากสัดส่วนเงินให้สินเชื่อ stage 2 และ 3 ต่อเงินให้สินเชื่อรวมมีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะจากสินเชื่อชั้นที่ 2 เนื่องจากสินเชื่อในกลุ่มดังกล่าวสามารถกลับสู่สถานะปกติได้หลังจากลูกหนี้ชำระหนี้ต่อเนื่องครบ 3 งวด ประกอบกับผลกระทบจากส่วนสูญเสียจากการขาย NPL ลดลง เนื่องจากการปรับแผนลดการขาย NPL ตามคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้น โดย ธนาคารฯ ยังคงรักษาประสิทธิภาพในการควบคุมสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ที่ระดับ 4.5% ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถบริหารจัดการได้

พัฒนาการที่สำคัญ
  • ธนาคารฯ  เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “เงินฝากออมทรัพย์ดิจิทัล alpha savings” ชูจุดเด่น ดอกเบี้ยสูงสุด 2% ต่อปี พร้อมเปิดบัญชีได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชัน ‘alpha by Thai Credit’ 
แนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงที่สำคัญ

การบริหารความเสี่ยงถือเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนของธนาคารฯ โดยธนาคารฯ ได้มีการวางแผนการกำกับดูแลความเสี่ยงที่มุ่งเน้นการพัฒนาและสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบบริหารความเสี่ยงในด้านต่างๆ อย่างเหมาะสมและครอบคลุมทุกด้านสำคัญ สอดคล้องกับแนวทางการกำกับดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทย รวมทั้งตอบสนองต่อความท้าทายด้านคุณภาพสินเชื่อโดยเฉพาะในสถานะการณ์ที่เกิดจากปัจจัยภายนอกที่ธนาคารฯ ไม่อาจควบคุมได้

นอกจากนี้ธนาคารฯ ได้จัดโครงสร้างองค์กรให้มีการถ่วงดุลอำนาจ และกระบวนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงยึดหลักธรรมาภิบาลที่ดีและมีระบบการรายงานติดตามความเสี่ยง เครื่องมือจัดการ ตลอดจนกระบวนการเพื่อใช้ในการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และส่งเสริมให้พนักงานทุกคนได้ทราบถึงแนวทางการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารความเสี่ยงและหน้าที่ความรับผิดชอบของตนผ่านนโยบายบริหารความเสี่ยง

รางวัลและความสำเร็จที่ผ่านมาของบริษัท
  • ธนาคารฯ ได้รับการประเมิน CGR ประจำปี 2567 ระดับ "ดีเลิศ" (Excellent) หรือ 5 ดาว จาก IOD
  • ธนาคารฯ ได้รับรางวัล CSR Award ประจำปี 2567 จากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 
  • ธนาคารฯ ได้รับรางวัล Best Innovation in Retail Banking Thailand 2567 จากจากนิตยสาร International Banker UK
  • ธนาคารฯ ได้รับรางวัล Best SME Bank of The Year 2024 โดยนิตยสาร The Global Economics UK
โครงสร้างรายได้ตามประเภทธุรกิจ
รายได้ดอกเบี้ย 97.6% รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย 2.4%
ข้อมูลหลักทรัพย์
SET / FINCIAL / BANK
ราคาปิด CREDIT SET index 36.00 18.00 0.00 1490.00 1398.33 1306.67 1215.00 2-10-66 4-1-67 29-3-67 3-7-67 30-9-67
ณ วันที่ 30/09/67 CREDIT BANK SET
P/E (เท่า) 8.35 7.78 18.03
P/BV (เท่า) 1.21 0.67 1.37
Dividend yield (%) - 5.47 3.16
30/09/67 - -
Market Cap (ลบ.) 25,026.23 N/A N/A
ราคา (บาท/หุ้น) 20.30 N/A N/A
P/E (เท่า) 8.35 N/A N/A
P/BV (เท่า) 1.21 N/A N/A
CG Report:
Company Rating:
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ณ วันที่ 05/03/2567
บริษัท วี เอ็น บี โฮลดิ้ง จำกัด (50.77%)
บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (9.62%)
OCA Investment Holdings I Pte. Ltd. (7.56%)
นาย วิญญู ไชยวรรณ (6.38%)
SOUTH EAST ASIA UK (TYPE A) NOMINEES LIMITED (4.23%)
อื่น ๆ (21.44%)
ช่องทางการติดต่อบริษัท
http://www.thaicreditbank.com
ir@thaicreditbank.com
0-2697-5300 Ext. 4197
123 ชั้น 1 อาคารไทยประกันชีวิต ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
ข้อมูลการซื้อขายอื่น ๆ : https://www.settrade.com/C04_01_stock_quote_p1.jsp?txtSymbol=CREDIT
หมายเหตุ : เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทจดทะเบียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนแก่ผู้ลงทุนเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น บริษัทจดทะเบียนไม่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนใด ๆ ในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน โดยก่อนการตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและควรขอรับคำปรึกษาจากผู้ประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายหรือสูญหายจากการนำข้อมูลที่ปรากฏนี้ไปใช้ในทุกกรณี และบริษัทจดทะเบียนสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า รวมทั้งห้ามไม่ให้ผู้ใดนำเอกสารหรือข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ไปทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากบริษัทจดทะเบียนก่อน หากผู้ลงทุนมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลของบริษัท สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากรายงานหรือสารสนเทศที่บริษัทได้เผยแพร่ผ่านช่องทางของสำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และ/หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย