บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“ไอ-เทล” / “บริษัทฯ”) เป็นหนึ่งในผู้นำในการรับจ้างผลิต (OEM) ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก และได้ถูกจัดอันดับโดย www.petfoodindustry.com ให้เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food Company) อันดับ 5 ของเอเชีย ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ผลิตจากวัตถุดิบหลัก คือ เนื้อปลาและเนื้อไก่ โดยใน ปี 2566 บริษัทฯ มีรายการผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายทั้งหมด 4,858 ชนิด จำหน่ายให้แก่ลูกค้ากว่า 435 รายในกว่า 46 ประเทศทั่วโลก โดยนอกเหนือจากการรับจ้างผลิตแล้ว บริษัทฯ ยังจำหน่ายอาหารและขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ได้แก่ Bellotta, Marvo, ChangeTer, Calico Bay และ Paramount
| 9M67 | 9M66 | 2566 | 2565 |
|---|
| รายได้ | 13,542.07 | 11,265.10 | 16,179.50 | 22,776.35 |
| ค่าใช้จ่าย | 10,432.70 | 9,698.69 | 13,721.33 | 18,389.19 |
| กำไร (ขาดทุน) สุทธิ | 2,806.81 | 1,514.55 | 2,281.38 | 4,470.18 |
| สินทรัพย์ | 26,188.41 | 24,732.30 | 25,431.25 | 25,749.59 |
| หนี้สิน | 2,463.22 | 2,965.21 | 2,312.39 | 3,143.45 |
| ส่วนผู้ถือหุ้น | 23,724.83 | 21,766.43 | 23,118.26 | 22,607.21 |
| กิจกรรมดำเนินงาน | 3,049.57 | 1,973.31 | 2,890.55 | 2,042.83 |
| กิจกรรมลงทุน | 1,345.47 | -4,359.16 | -2,993.54 | -3,388.78 |
| กิจกรรมจัดหาเงิน | -2,264.53 | -1,369.58 | -1,374.39 | 12,133.83 |
| กำไรต่อหุ้น (บาท) | 0.94 | 0.50 | 0.76 | 2.52 |
| อัตรากำไรขั้นต้น (%) | 28.57 | 18.39 | 19.50 | 24.08 |
| อัตรากำไรสุทธิ (%) | 20.72 | 13.46 | 14.11 | 19.62 |
| D/E Ratio (เท่า) | 0.10 | 0.14 | 0.10 | 0.14 |
| ROE (%) | 15.71 | 17.29 | 9.98 | 33.19 |
| ROA (%) | 14.73 | 11.90 | 9.48 | 22.55 |
บริษัทฯ มีเป้าหมายระยะยาวจนถึงปี 2573 ด้วยเป้ารายได้ที่ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมาจากทั้งรายได้จากการดำเนินงานปกติ และรายได้จากการเข้าซื้อกิจการ โดยบริษัทฯมุ่งเน้นในการขยายธุรกิจหลักไปทั่วโลก ได้แก่ อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกและขนมทานเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง เพิ่มสัดส่วนการครองตลาดของธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) ในช่องทางซุปเปอร์มาร์เก็ต (private label) ในตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรป รวมทั้งเรามีโครงการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อเร่งการเติบโต และเพิ่มผลกำไรจากการดำเนินงานต่อปีตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป รวมทั้งบริษัทฯ กำลังมองหาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารสัตว์เลี้ยง
ใน 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ ได้แสดงความคืบหน้าของแผนด้านความยั่งยืนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจด้านความยั่งยืน SeaChange® ของไทยยูเนี่ยน ซึ่งได้แก่เป้าหมายด้าน Safe, Decent, and Equitable Work โดยบริษัทฯ ได้ดําเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสวัสดิการชาวประมงของเรือไทยภายใต้ห่วงโซ่อุปทานของบริษัทฯ และอีกเป้าหมายคือด้าน Corporate Citizenship ที่บริษัทฯ จะให้การสนับสนุนชุมชน ซึ่งบริษัทฯ มีโครงการ Second Chance เช่น ไอ-เทลสนับสนุนการฝึกอบรมสุนัข ซึ่งอยู่ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างบริษัทฯ กับ มูลนิธิเดอะวอยซ์ และบริษัท ศูนย์ฝึกสุนัข ไชยภักดิ์ รวมถึงกิจกรรมร่วมกับพนักงาน
ใน 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ แสดงแผลงานที่แข็งแกร่งทั้งยอดขายและอัตรากำไรอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น สัดส่วนการขายสินค้าพรีเมี่ยมที่สูงขึ้น และกลยุทธ์การปรับราคาสินค้า บริษัทฯ บริหารจัดการให้สามารถมีอัตรากำไรขั้นต้นรายไตรมาสที่แข็งแกร่งอยู่ที่ 29.8% ในไตรมาส 3 ปี 2567 นอกจากนั้น บริษัทฯ ได้ลูกค้าใหม่ 21 ราย และออกสินค้าใหม่ 896 รายการใน 9 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 4,606 รายการ
บริษัทฯมีรายได้ใน 9 เดือนแรกอยู่ที่ 13,031.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.3% จากปีก่อน โดยหลักๆจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในทุกตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปอเมริกาและยุโรป เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานที่ลดลงในปี 2566 สัดส่วนการขายสินค้าพรีเมี่ยมที่สูงขึ้น และกลยุทธ์การปรับราคาของบริษัทฯ กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 3,723.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87.0% จากปีก่อนจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนการผลิตที่ลดลง การกลับรายการสำรองสินค้าคงคลัง รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 28.6% กำไรจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 2,598.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129.9% จากปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรที่ 19.9% ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารอยู่ที่ 1,124.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.6% จากปีก่อน หลักๆจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการบริหาร และค่าใช้จ่ายในการขาย ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.6% จาก 7.9% ในปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 2,806.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85.3% จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น และผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งส่งผลให้อัตรากําไรสุทธิแข็งแกร่งอยู่ที่ 21.5%
ในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ยอดขายอยู่ที่ 4,435.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.9% จากปีก่อน แต่ลดลงเล็กน้อย 2.9% จากไตรมาสก่อน อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นยังแข็งแกร่งอยู่ที่ 29.8% จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น สัดส่วนการขายสินค้าพรีเมี่ยมที่สูงขึ้น การกลับรายการสำรองสินค้าคงคลัง ต้นทุนการผลิตที่ลดลง รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
ใน 9 เดือนแรกของปี 2567 ระบบจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้าแบบอัตโนมัติ (ASRS) ที่โรงงานสงขลา ที่เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2567 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และเพิ่มการใช้ระบบอัตโนมัติในคลังสินค้าสำหรับโรงงานทั้งสองแห่ง โดยค่าใช้จ่ายในการลงทุนรวม 1.3 พันล้านบาท ยังเป็นไปตามแผนและคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568 นอกจากนั้น บริษัทฯยังคงมีโปรเจคในแผนกับลูกค้ารายหลักอย่างต่อเนื่องพร้อมด้วยกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อสร้างรายได้และผลกำไร
ความเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ เช่นทูน่าและไก่ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ สถานการณ์ขนส่งและตู้คอนเทนเนอร์ทั่วโลก ภูมิศาสตร์การเมือง เช่น สงครามการค้า และความท้าทายในด้านสถานการณ์เศรษฐกิจ
กลยุทธ์ของบริษัทฯในการบรรเทาความเสี่ยง ได้แก่ การปรับขึ้นราคาสินค้า การหาแหล่งวัตถุดิบที่หลากหลาย การป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน การลงทุนใน automation และการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต รวมถึงการบริหารลูกค้าเชิงรุก
บริษัทฯได้รับรางวัลจากสถาบันชั้นนำ ได้แก่ รางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 4” ประจำปี 2567 จัดขึ้นโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม , เบลลอตต้า (Bellotta) ได้รับรางวัล “อาหารเปียกสำหรับแมวระดับพรีเมียมดีเด่น” ประจำปี 2567 ในงานบ้านและสวน Pets Fest 2567 และไอ-เทลได้รับการเสนอรายชื่อในประเภทรางวัล Best investor event และรางวัล Rising star - เนโรลี่ โกลด์แมน
| ณ วันที่ 30/09/67 | ITC | FOOD | SET |
|---|---|---|---|
| P/E (เท่า) | 19.80 | 36.54 | 18.03 |
| P/BV (เท่า) | 2.73 | 1.52 | 1.37 |
| Dividend yield (%) | 2.80 | 2.63 | 3.16 |
| 30/09/67 | 28/12/66 | 30/12/65 | |
|---|---|---|---|
| Market Cap (ลบ.) | 64,200.00 | 63,300.00 | 90,000.00 |
| ราคา (บาท/หุ้น) | 21.40 | 21.10 | 30.00 |
| P/E (เท่า) | 19.80 | 28.97 | 22.54 |
| P/BV (เท่า) | 2.73 | 2.91 | 3.96 |
