SCC : บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน)
9M/2567 (ม.ค. - ก.ย. 2567)
ภาพรวมธุรกิจ

เอสซีจี ปัจจุบันประกอบไปด้วย 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้าง, ธุรกิจเคมิคอลส์ (SCGC) และธุรกิจแพคเกจจิ้ง (SCGP)

งบการเงิน
9M67 9M66 2566 2565
งบกำไรขาดทุน (ลบ.)
รายได้ 392,157.92 404,294.78 528,531.42 582,292.21
ค่าใช้จ่าย 380,564.99 371,015.89 494,497.98 563,097.34
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 6,854.08 27,049.34 25,914.98 21,382.35
งบแสดงฐานะทางการเงิน (ลบ.)
สินทรัพย์ 867,046.44 960,057.69 893,600.63 906,489.79
หนี้สิน 451,846.85 499,913.27 452,003.99 454,065.36
ส่วนผู้ถือหุ้น 347,214.16 383,640.27 363,961.76 374,254.96
งบกระแสเงินสด (ลบ.)
กิจกรรมดำเนินงาน 15,236.76 32,940.68 44,008.44 29,718.93
กิจกรรมลงทุน -8,018.64 -28,122.72 -10,631.16 -32,946.93
กิจกรรมจัดหาเงิน -17,882.61 -11,176.08 -46,586.01 24,399.46
อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ
กำไรต่อหุ้น (บาท) 5.71 22.54 21.60 17.82
อัตรากำไรขั้นต้น (%) 13.67 15.34 14.70 13.74
อัตรากำไรสุทธิ (%) 1.32 6.44 4.56 3.04
D/E Ratio (เท่า) 1.09 1.09 1.02 1.00
ROE (%) 1.57 6.98 7.02 5.78
ROA (%) 2.11 4.27 4.72 3.38
แผนธุรกิจ

SCG Passion for Inclusive Green Growth ขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตด้วยนวัตกรรมคาร์บอนต่ำ สร้างสังคมเข้มแข็งและยั่งยืน ผ่านการดำเนินธุรกิจ Green ในแต่ละธุรกิจ ตัวอย่างเช่น

  • SCG Cement and Green solutions พัฒนานวัตกรรมปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ (Low Carbon Cement) และตั้งเป้าทดแทนปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ที่ 100% ในปี 2568
  • SCGC มุ่งสู่สินค้ามูลค่าเพิ่มสูง (HVA) และนวัตกรรมพลาสติกรักษ์โลก (SCGC Green Polymer)
  • SCGP ตั้งเป้า 100% สำหรับการใช้วัตถุดิบกระดาษรีไซเคิลภายในปี 2573
  • SCG Cleanergy ผลักดันระบบซื้อขายไฟฟ้าผ่านแพลตฟอร์ม Smart Grid และแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานสะอาด (Energy Storage) 
แผนการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน

เอสซีจีใช้แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านแนวทาง ESG 4 Plus ได้แก่

  1. มุ่ง Net Zero ภายในปี 2593
  2. Go Green พัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  3. ลดเหลื่อมล้ำ
  4. ย้ำร่วมมือ

รวมถึง มีเป็นธรรมและโปร่งใส

สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scgsustainability.com/

Highlight ที่น่าสนใจของบริษัท

SCG กำหนดแผนการดำเนินธุรกิจ ในช่วงเศรษฐกิจที่ท้าทาย ดังนี้

  1. ลดต้นทุนการดำเนินงานทั้งองค์กร 5,000 ล้านบาท ภายในปี 2568
  2. ลดเงินทุนหมุนเวียนลง 10,000 ล้านบาท ภายในไตรมาส 1/2568 
  3. ยกเลิกกิจการที่ไม่ทำกำไร
  4. ขายสินทรัพย์ (Asset Divestment) เพิ่มความคล่องตัวและรักษาเสถียรภาพทางการเงิน
การวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน
สรุปผลการดำเนินงาน

ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2567 เอสซีจีมีรายได้จากการขายเท่ากับ 128,199 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน เนื่องจาก SCGC มีปริมาณขายเพิ่มขึ้นชดเชยกับยอดขายที่ลดลงของ SCGP ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 2% จากยอดขายของ SCGC และ SCGP

EBITDA เท่ากับ 9,879 ล้านบาท ลดลง 39% จากไตรมาสก่อน และลดลง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

กำไรสำหรับงวด เท่ากับ 721 ล้านบาท ซึ่งรวมรายการเงินสดที่ได้จากสัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยหรือ Interest Rate Swap (IRS) มูลค่า 2,183 ล้านบาท จาก SCGC โดยที่กำไรสำหรับงวดลดลง 81% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่า การปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือลดลงและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลงประกอบกับไตรมาสก่อนเป็นช่วงที่มีรายได้เงินปันผลรับจากการลงทุนในธุรกิจอื่น กำไรสำหรับงวดลดลง 70% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรที่ไม่รวมรายการพิเศษ ลดลง 76% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่า การปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือลดลงและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง

พัฒนาการที่สำคัญ

พัฒนาการที่สำคัญในไตรมาส 3 ปี 2567

SCGC โดย LSP จะดำเนินโครงการเพิ่มวัตถุดิบการผลิตเพื่อรองรับก๊าซอีเทน ด้วยงบประมาณลงทุนรวมประมาณ 700 MUSD (หรือประมาณ 23,000 MB) คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2570 โครงการดังกล่าวจะทำให้ LSP สามารถรับวัตถุดิบก๊าซอีเทนจากสหรัฐอเมริกาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของโรงงาน LSP โดยมีต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำลงและเพิ่มความยืดหยุ่นในการรับวัตถุดิบในการผลิตมากขึ้น 

ปัจจุบัน LSP มีมูลค่าการลงทุน 5.2 พันล้านดอลลาห์สหรัฐ (ประมาณ 170,000 MB) โดยหลังจากการทดสอบการเดินเครื่องจักรขั้นสุดท้าย โรงงาน LSP ได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เนื่องด้วยช่วงวัฏจักรขาลงของธุรกิจปิโตรเคมีและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน LSP จะติดตามสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อพิจารณาการเดินโรงงานที่เหมาะสม  

SCGP ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมในสัดส่วน 44.48% ใน PT Fajar Surya Wisesa Tbk (Fajar) จาก PT Intercipta Sempana (PTICS) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 652.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 23,000 ล้านบาท) โดยภายหลังธุรกรรมเสร็จสิ้น จำนวนหุ้นที่ SCGPSS ถือใน Fajar จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 55.24% เป็น 99.72% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด

SCGD โดย PRIME TRADING, IMPORT AND EXPORT ONE MEMBER Limited Liability Company (PRIME)ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุน V Ceramic Mekong DeltaLimited Liability Company (V-Ceramic) เพื่อทำธุรกิจร้านค้าปลีกในรูปแบบแมนูเฟคเจอรริ่งเอ๊าท์เล็ทในภาคใต้ของประเทศเวียดนาม โดยมีทุนจดทะเบียน 10,000 ล้านดอง (ประมาณ 17 ล้านบาท) ซึ่ง PRIME มีสัดส่วนถือหุ้น 60% และบริษัท VAN PHUC TRADING Company Limited ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุนท้องถิ่นมีสัดส่วนถือหุ้น 40% ใน V-Ceramic ตามลำดับ

แนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงที่สำคัญ
  1. การกำหนดกลยุทธ์ โดยกำหนดวัตถุประสงค์และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (Risk Appetite) ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งองค์กร
  2. โครงการสร้างความรับผิดชอบในการบริหารจัดการความเสี่ยง ผ่านโครงสร้างการบริหารในทุกระดับ
  3. นโยบายการบริหารความเสี่ยง ให้สามารถระบุความเสี่ยงหรือโอกาสในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเหมาะสมและทันต่อเหตุการณ์
  4. กระบวนการบริหารความเสี่ยง ตามกระบวนการหลัก 4 ขั้นตอน ได้แก่ การระบุความเสี่ยงหรือโอกาสในการดำเนินธุรกิจ ประเมินความเสี่ยง กำหนดมาตรการจัดการความเสี่ยง และติดตามและรายงานความเสี่ยง 
  5. การสร้างวัฒนธรรมองค์กรในการบริหารความเสี่ยง
โครงสร้างรายได้ตามประเภทธุรกิจ
SCGC (Chemicals) 40% SCGP (Packaging) 27% Cement and Green Solutions 16% D&R and Smart Living 12% SCGD 5%
ข้อมูลหลักทรัพย์
SET / PROPCON / CONMAT
ราคาปิด SCC SET index 328.00 240.00 152.00 1490.00 1398.33 1306.67 1215.00 2-10-66 4-1-67 29-3-67 3-7-67 30-9-67
ณ วันที่ 30/09/67 SCC CONMAT SET
P/E (เท่า) 38.87 22.72 18.03
P/BV (เท่า) 0.76 0.88 1.37
Dividend yield (%) 2.49 3.43 3.16
30/09/67 28/12/66 30/12/65
Market Cap (ลบ.) 289,200.00 367,200.00 410,400.00
ราคา (บาท/หุ้น) 241.00 306.00 342.00
P/E (เท่า) 38.87 13.50 13.90
P/BV (เท่า) 0.76 0.96 1.04
CG Report:
Company Rating:
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ณ วันที่ 08/08/2567
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (33.64%)
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด (8.65%)
สำนักงานประกันสังคม (5.06%)
SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED (2.03%)
STATE STREET EUROPE LIMITED (1.43%)
อื่น ๆ (49.19%)
ช่องทางการติดต่อบริษัท
http://www.scg.com
invest@scg.com
0-2586-4299
1 ถนนปูนซิเมนต์ไทย แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800
ข้อมูลการซื้อขายอื่น ๆ : https://www.settrade.com/C04_01_stock_quote_p1.jsp?txtSymbol=SCC
หมายเหตุ : เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทจดทะเบียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนแก่ผู้ลงทุนเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น บริษัทจดทะเบียนไม่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนใด ๆ ในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน โดยก่อนการตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและควรขอรับคำปรึกษาจากผู้ประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายหรือสูญหายจากการนำข้อมูลที่ปรากฏนี้ไปใช้ในทุกกรณี และบริษัทจดทะเบียนสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า รวมทั้งห้ามไม่ให้ผู้ใดนำเอกสารหรือข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ไปทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากบริษัทจดทะเบียนก่อน หากผู้ลงทุนมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลของบริษัท สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากรายงานหรือสารสนเทศที่บริษัทได้เผยแพร่ผ่านช่องทางของสำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และ/หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย