บริษัท ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้บริการด้านวิศวกรรมระบบครบวงจร ทั้งการจำหน่ายอุปกรณ์ HVAC และการรับเหมาติดตั้งระบบวิศวกรรมสำหรับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ โดยมีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับทั้งภาครัฐและเอกชน บริการของบริษัทครอบคลุมงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารทั้งหมด ดำเนินการโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญภายใต้มาตรฐานที่เข้มงวดบริษัทมุ่งเน้นการบริหารโครงการให้มีประสิทธิภาพ ตรงตามงบประมาณ และตรงตามกำหนดเวลา เพื่อตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า ในปี 2567 บริษัทได้ขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดพลังงานสะอาดด้วยการจำหน่ายไอน้ำ ธุรกิจค้าปลีกเครื่องปรับอากาศและบริการหลังการขาย รวมทั้งธุรกิจระบบคอมพิวเตอร์เซิฟเวอร์และเน็ตเวิร์ค รวมทั้งขยายธุรกิจไปยังประเภทผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง
| 2567 | 2566 | 2565 | 2564 |
|---|
| รายได้ | 454.99 | 690.27 | 982.26 | 642.11 |
| ค่าใช้จ่าย | 898.51 | 742.76 | 945.66 | 613.97 |
| กำไร (ขาดทุน) สุทธิ | -439.41 | -45.07 | 24.49 | 19.46 |
| สินทรัพย์ | 323.72 | 758.01 | 1,018.86 | 411.92 |
| หนี้สิน | 198.76 | 194.01 | 409.79 | 274.94 |
| ส่วนผู้ถือหุ้น | 124.96 | 564.00 | 609.07 | 136.98 |
| กิจกรรมดำเนินงาน | 2.12 | -175.41 | -195.06 | -105.34 |
| กิจกรรมลงทุน | -10.68 | -5.82 | -7.47 | -0.19 |
| กิจกรรมจัดหาเงิน | -3.34 | -9.69 | 364.34 | 155.65 |
| กำไรต่อหุ้น (บาท) | -1.02 | -0.10 | 0.08 | 49.90 |
| อัตรากำไรขั้นต้น (%) | 7.23 | 1.48 | 11.09 | 12.12 |
| อัตรากำไรสุทธิ (%) | -96.57 | -6.53 | 2.49 | 3.03 |
| D/E Ratio (เท่า) | 1.59 | 0.34 | 0.67 | 2.01 |
| ROE (%) | -127.56 | -7.68 | 6.57 | 14.20 |
| ROA (%) | -82.00 | -5.91 | 5.12 | 6.83 |
บริษัทมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ และรับเหมาติดตั้งระบบวิศวกรรมประกอบอาคารภายใต้วิสัยทัศน์การบริหารงานที่ส่งเสริมให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดในการส่งมอบงานที่ได้มาตรฐานสากล เช่น ISO และสามารถสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า โดยใช้ระบบ ERP เพื่อบริหารจัดการงานโครงการและงานเก็บข้อมูลต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ และบริษัทยังคงมุ่งเน้นการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจอื่น ๆ เพิ่มเติม ที่สามารถสร้างกำไรให้แก่ธุรกิจโดยรวมและสร้างผลตอบให้กับผู้ถือหุ้น
บริษัท 24CS มุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งพัฒนาองค์กรให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ผ่านการสื่อสารนโยบาย เป้าหมายที่ชัดเจน และการนำหลัก ESG มาใช้ในการดำเนินงานของบริษัท รวมทั้ง การจัดการความเสี่ยงของกิจการ
บริษัทมุ่งเป็นผู้นำด้านการออกแบบและติดตั้งระบบวิศวกรรมอาคาร และการเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ โดยในปี 2567 บริษัทได้ขยายธุรกิจเข้าสู่กิจการพลังงาน โดยเข้าทำสัญญาขายพลังงานไอน้ำระยะยาว 12 ปี และเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 ทั้งนี้ไตรมาส 4 ปี 2567 บริษัทได้รับอนุมัติให้เข้าซื้อกิจการให้บริการติดตั้งดูแลระบบคอมพิวเตอร์เซิฟเวอร์และเน็ตเวิร์คทุกชนิดและกิจการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อนำมาผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่อง สำอาง กิจการรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และกิจการค้าปลีกและค้าส่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง รวมทั้งหมด 4 บริษัท เพื่อเป็นการเสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว
รายได้จากการก่อสร้างและการบริการ
สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2567 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการก่อสร้างและการบริการจำนวน 286.48 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 จำนวน 149.27 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 34 ซึ่งมีเหตุผลสำคัญมาจาก หลายงานโครงการได้มีการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566 และกลุ่มบริษัทได้ชะลอการรับงานในโครงการใหม่ ๆ เนื่องจากต้องการคัดกรองงานและลูกค้าที่มีคุณภาพมีอัตรากำไรขั้นต้นตามนโยบายที่กลุ่มบริษัทกำหนด และลูกค้าที่มีความสามารถในการจ่ายชำระหนี้ตรงตามกำหนด
รายได้จากการขายสินค้า
สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2567 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าจำนวน 166.56 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 จำนวน 79.19 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 32 เนื่องจากในปีก่อน กลุ่มบริษัทมีการขายสินค้าให้กับโครงการขนาดใหญ่ของทั้งภาครัฐและเอกชน อย่างไรก็ตาม ในปี 2567 กลุ่มบริษัทขายสินค้าส่วนใหญ่ให้กับโครงการที่มีขนาดเล็ก และลูกค้าที่มีคุณภาพ มีอัตรากำไรขั้นต้นตามนโยบายที่กลุ่มบริษัทกำหนด และลูกค้าที่มีความสามารถในการจ่ายชำระหนี้ตรงตามกำหนด
ต้นทุนจากการก่อสร้างและการบริการและกำไรขั้นต้น
สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2567 กลุ่มบริษัทมีต้นทุนงานก่อสร้างและการบริการจำนวน 274.30 ล้านบาท ลดลง 169.13 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 38 ซึ่งไปในทิศทางเดียวกันกับการลดลงของรายได้จากงานก่อสร้างและการบริการ อย่างไรก็ตาม กำไรขั้นต้นของงานก่อสร้างและการบริการปีปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 4 สูงขึ้นกว่าปีที่แล้วซึ่งเป็นขาดทุนขั้นต้น ร้อยละ 2 เนื่องจากกลุ่มบริษัทรับงานก่อสร้างจากลูกค้ารายใหม่ๆที่มีอัตรากำไรขั้นที่สูง และมีการบริหารต้นทุนการก่อสร้างที่ดีขึ้นทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น ถึงแม้กลุ่มบริษัทมีรายได้ที่ลดลง
ต้นทุนจากการขายสินค้าและกำไรขั้นต้น
สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2567 กลุ่มบริษัทมีต้นทุนการขายสินค้าจำนวน 146.00 ล้านบาท ลดลง 82.00 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 36 ซึ่งไปในทิศทางเดียวกันกับการลดลงของรายได้จากการขายสินค้า อย่างไรก็ตาม กำไรขั้นต้นของการขายสินค้าปีปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 12 สูงขึ้นกว่าปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 7 เนื่องจากกลุ่มบริษัทขยายธุรกิจไปยังกลุ่มพลังงานสะอาด เช่น การขายไอน้ำ และเสาไฟโซลาร์ ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าการขายสินค้าในธุรกิจก่อสร้าง
บริษัทได้ปรับโครงสร้างองค์กรโดยเพิ่มฝ่ายธุรกิจพลังงาน เพื่อสร้างกลยุทธ์ที่เข้มแข็งให้กลุ่มบริษัท รวมทั้งขยายธุรกิจด้วยการเข้าซื้อธุรกิจในกลุ่มไอที กลุ่มสุขภาพและความงาม เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นและในปี 2567 บริษัทได้รับการรับรอง ISO 14001:2015 มาตรฐานสากลด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม เพิ่มเติมในขอบเขตด้านพลังงาน โดยบริษัทได้ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยนำระบบ Environmental Management System ตามมาตรฐานสากล มาเป็นแนวทางในการจัดการอย่างเป็นระบบ
| ณ วันที่ 30/12/67 | 24CS | PROPCON | mai |
|---|---|---|---|
| P/E (เท่า) | - | 30.62 | 41.84 |
| P/BV (เท่า) | 3.97 | 1.78 | 1.55 |
| Dividend yield (%) | - | 1.86 | 2.47 |
| 30/12/67 | 28/12/66 | 30/12/65 | |
|---|---|---|---|
| Market Cap (ลบ.) | 1,255.60 | 619.20 | 1,264.20 |
| ราคา (บาท/หุ้น) | 2.92 | 1.44 | 2.94 |
| P/E (เท่า) | - | - | 39.74 |
| P/BV (เท่า) | 3.97 | 1.05 | 2.11 |