MOSHI : บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
YE/2567 (ม.ค. - ธ.ค. 2567)
ภาพรวมธุรกิจ

บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) ที่มีความหลากหลาย ทันสมัย เน้นคุณภาพ ในราคาที่ย่อมเยา ภายใต้ชื่อทางการค้า "Moshi Moshi"

งบการเงิน
2567 2566 2565 2564
งบกำไรขาดทุน (ลบ.)
รายได้ 3,127.91 2,543.26 1,895.89 1,263.84
ค่าใช้จ่าย 2,422.62 1,994.88 1,553.63 1,072.90
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 520.68 401.51 253.17 131.27
งบแสดงฐานะทางการเงิน (ลบ.)
สินทรัพย์ 4,375.68 3,643.02 2,801.45 1,992.91
หนี้สิน 2,054.17 1,661.10 1,191.04 1,039.39
ส่วนผู้ถือหุ้น 2,321.51 1,981.93 1,610.42 953.51
งบกระแสเงินสด (ลบ.)
กิจกรรมดำเนินงาน 688.00 718.58 554.52 363.15
กิจกรรมลงทุน -96.52 -1,113.20 -98.48 -33.41
กิจกรรมจัดหาเงิน -509.39 -266.02 61.79 -212.56
อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ
กำไรต่อหุ้น (บาท) 1.58 1.22 1.05 583.41
อัตรากำไรขั้นต้น (%) 53.48 53.37 52.42 53.94
อัตรากำไรสุทธิ (%) 16.65 15.79 13.35 10.39
D/E Ratio (เท่า) 0.88 0.84 0.74 1.09
ROE (%) 24.20 22.35 19.75 13.77
ROA (%) 18.21 17.48 14.54 9.64
แผนธุรกิจ

มุ่งขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการเป็น"ผู้นำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์ที่มีคุณภาพราคาย่อมเยาแก่ผู้บริโภคมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การทำงานใช้ข้อมูลเป็นหลักสำคัญและสร้างสัมพันธภาพที่ยั่งยืนกับพันธมิตร ด้วยกลยุทธ์ ดังนี้

1.เสริมสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ในตลาด: ขยายช่องทางจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอีก 40 สาขาเน้นขยายสาขาในรูปแบบที่หลากหลาย รวมถึงสาขา Standalone 2 รูปแบบ คือ สาขาใกล้มหาวิทยาลัยเพื่อเข้าถึงกลุ่มนักศึกษาและชุมชนโดยรอบและ Pilot Project สาขาขนาดใหญ่พื้นที่ 300 ตารางเมตรขึ้นไปในเขตชุมชน เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายและสร้างศูนย์กลางการจับจ่ายในพื้นที่ พร้อมมุ่งเน้นการขยายสาขาในพื้นที่ที่มีศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายฐานลูกค้าอย่างยั่งยืน จะส่งผลให้บริษัทฯ มีสาขาครบทั้งสิ้น 200 สาขาภายในปีนี้ ครอบคลุมทั่วประเทศ 

2.สร้างความได้เปรียบด้วยสินค้าใหม่ทั้งแบบมีลิขสิทธิ์และสินค้าทั่วไป: เพิ่มความหลากหลายของสินค้าโดยขยายพอร์ตสินค้าเข้าสู่หมวดหมู่ใหม่ๆ พร้อมเปิดตัวคอลเลกชันพิเศษที่ร่วมมือกับลิขสิทธิ์ชั้นนำอย่างต่อเนื่อง 

3.สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค: จากฐานสมาชิกปัจจุบันกว่า 600,000 ราย เดินหน้าสร้างความผูกพันผ่านสิทธิประโยชน์และโปรโมชันที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม และพร้อมดึงดูดลูกค้าใหม่จากทำเลใหม่ ๆ ที่เปิดตัว เพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้ง 

4.จับโอกาสในตลาดกลุ่มสินค้าที่กำลังเติบโต: เน้นกลุ่ม Home Furnishing และ  Fashion ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 

5.พัฒนาสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพและมุ่งเพิ่มคุณค่า: โดยการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์พร้อมรักษาระดับราคาที่เหมาะสมและสามารถแข่งขันได้

6.ขยายการเติบโตช่องทางออนไลน์: ผลักดันยอดขายในช่องทางออนไลน์ผ่านการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและจัดโปรโมชันที่ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น

แผนการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน

ดำเนินธุรกิจตามกรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืน เราคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ตลอดจนร่วมดูแลเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยให้แข็งแกร่ง ภายใต้กลยุทธ์ ด้านความยั่งยืน 4 ด้าน คือ1. Right product and service 2.Well-being for all 3. Green Operation 4. Effective Governance


Highlight ที่น่าสนใจของบริษัท

4Q67 รายได้จากการดำเนินงาน 1,047.15 ล้านบาท +32.6% YoY, +42.3% QoQ ปี 2567 อยู่ที่ 3,111.26 ล้านบาท +23.0% YoY มาจากการขยายสาขา สินค้าคอลเลกชั่น และการจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ใน 4Q67 กำไรสุทธิ 205.94 ล้านบาท +33.7% YoY อัตรากำไรสุทธิ 19.6% กำไรสุทธิ ปี 2567 กำไรสุทธิ 520.68 ล้านบาท + 27.5% YoY อัตรากำไรสุทธิ 16.6%

การวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน
สรุปผลการดำเนินงาน

รายได้จากการดำเนินงาน ปี2567 จำนวน 3,111.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 581.75 ล้านบา + 23.0 YoY ปัจจัยสนับสนุนจากการขยายสาขาใหม่จำนวน 34 สาขา (รวมสาขา Standalone ใกล้มหาวิทยาลัย 5 สาขา) และ SSSG + ร้อยละ 3.85 โดยกลุ่มสินค้าที่เติบโตโดดเด่นได้แก่ ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์เสริมความงาม, สินค้าแฟชั่น, กล่องสุ่ม และ ของเล่น 

กำไรขั้นต้นและอัตรากำไรขั้นต้น ปี2567 จำนวน 1,664.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 314.08 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.3 YoY โดยอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ 53.4 เป็นร้อยละ 53.5 จากการมุ่งเน้นการขยายสาขาค้าปลีกเพียงอย่างเดียวและการปรับตัวดีขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นของร้าน The Ok Station โดยอัตรากำไรขั้นต้นไม่รวม JV อยู่ที่ร้อยละ 54.2

ค่าใช้จ่ายในการขาย ปี2567 อยู่ที่ 865.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 153.75 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.6 YoY ซึ่งเป็นผลจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องจาก 126 สาขา ในปี 2566 เป็น 159 สาขา อัตราค่าใช้จ่ายในการขายต่อรายได้รวมปรับตัวดีขี้นจากร้อยละ 28.0 เป็นร้อยละ 27.7 สะท้อนถึงการเกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) จากการขยายธุรกิจ 

ค่าใช้จ่ายในการบริหาร ปี 2567 จำนวน 110.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.31 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.1 YoY โดยอัตราค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้รวมปรับตัวลดลงจากร้อยละ 4.1 เป็นร้อยละ 3.5 แสดงให้เห็นถึงการเกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale)

กำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิ ปี 2567 จำนวน 520.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112.45 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.5 YoY โดยมีปัจจัยหลักจากการเติบโตของรายได้จากทุกช่องทาง จากอัตราการเติบโตของรายได้สาขาเดิม การเปิดสาขาใหม่ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย อัตรากำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 16.1 เป็นร้อยละ 16.6 เป็นการเเติบโตของรายได้จากการขายสินค้าที่เป็นที่ต้องการของลูกค้าและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง 

พัฒนาการที่สำคัญ

การพัฒนาที่่สำคัญสำหรับไตรมาส 4 2567

การขยายสาขาเพิ่มเติม เปิดสาขาใหม่ภายใต้แบรนด์ Moshi 6 สาขา เป็น Standalone 1 สาขา ณ สิ้นปี 2567 มีสาขา Moshi รวม 159 สาขา โดยเป็น Standalone 5 สาขา

การพัฒนาสินค้าและบริการ นำเสนอสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงสินค้าคอลเลกชันพิเศษที่หลากหลายครอบคลุมทั้งเทศกาลสำคัญอย่างต่อเนื่อง การสร้าง Branding “โมชิ โมชิ” มาตลอดทั้งปี ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในราคาย่อมเยา 

การจัดแคมเปญพิเศษ "แจกใหญ่ แทนคำขอบคุณ" ครบรอบ 8 ปี ทุกยอดซื้อ 299 บาท รับ 1 สิทธิ์ลุ้นรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท โดยกิจกรรมจัดขึ้น 1 พย -31 ธค 2567

แนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงที่สำคัญ

ได้จัดทำและประกาศใช้นโยบายและกรอบแนวทางการบริหารความเสี่ยง (Risk Management Policy) และมีการดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าว ซึ่งครอบคลุมทั้งในระดับองค์กรและระดับปฎิบัติงาน เพื่อบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยประยุกต์ใช้หลักการบริหารความเสี่ยงตามมาตราฐานสากลของ COSO ทั้งนี้ การบริหารความเสี่ยงด้านธุรกิจ บริษัทมีการพิจารณาประเด็นสำคัญในด้านต่างๆอย่างครบถ้วนตาม แนวทางการบริหารความเสี่ยง ได้แก่ ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ ความเสี่ยงด้านปฎิบัติการ ความเสี่ยงด้านการเงิน ความเสี่ยงการปฎิบัติตามกฎระเบียบ ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ และความเสี่ยงด้านความยั่งยืน

รางวัลและความสำเร็จที่ผ่านมาของบริษัท
  • การได้รับประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ในระดับ "A" ปี 2567
  • การประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ "ดีเลิศ" ( 5 ดาว) ปี 2567
  • ได้รับการประเมินผล 100 คะแนนเต็ม จากโครงการประเมินผลคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567


โครงสร้างรายได้ตามประเภทธุรกิจ
ขายปลีก 82% ขายส่ง 16% อื่นๆ/JV 2%
ข้อมูลหลักทรัพย์
SET / SERVICE / COMM
ราคาปิด MOSHI SET index 64.00 46.00 28.00 1518.00 1414.33 1310.67 1207.00 2-1-67 27-3-67 2-7-67 30-9-67 30-12-67
ณ วันที่ 30/12/67 MOSHI COMM SET
P/E (เท่า) 30.62 23.61 19.33
P/BV (เท่า) 6.75 2.85 1.40
Dividend yield (%) 1.39 1.90 3.23
30/12/67 28/12/66 30/12/65
Market Cap (ลบ.) 14,272.50 17,655.00 10,950.00
ราคา (บาท/หุ้น) 43.25 53.50 36.50
P/E (เท่า) 30.62 47.90 49.81
P/BV (เท่า) 6.75 9.65 4.66
CG Report:
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ณ วันที่ 10/03/2567
น.ส. มัณฑนา อัศวเมธา (14.20%)
นาย สง่า บุญสงเคราะห์ (9.60%)
นาย สมชาย บุญสงเคราะห์ (9.60%)
นาย ณพล บุญสงเคราะห์ (9.20%)
นาย อชิระ บุญสงเคราะห์ (7.60%)
อื่น ๆ (49.80%)
ช่องทางการติดต่อบริษัท
http://www.moshimoshi.co.th
0-2891-3088
อาคารศูนย์การค้าเดอะมอลล์ท่าพระ ชั้น9 เลขที่ 129 ถนน รัชดาภิเษก แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพ 10600
ข้อมูลการซื้อขายอื่น ๆ : https://www.settrade.com/C04_01_stock_quote_p1.jsp?txtSymbol=MOSHI
หมายเหตุ : เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทจดทะเบียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนแก่ผู้ลงทุนเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น บริษัทจดทะเบียนไม่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนใด ๆ ในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน โดยก่อนการตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและควรขอรับคำปรึกษาจากผู้ประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายหรือสูญหายจากการนำข้อมูลที่ปรากฏนี้ไปใช้ในทุกกรณี และบริษัทจดทะเบียนสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า รวมทั้งห้ามไม่ให้ผู้ใดนำเอกสารหรือข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ไปทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากบริษัทจดทะเบียนก่อน หากผู้ลงทุนมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลของบริษัท สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากรายงานหรือสารสนเทศที่บริษัทได้เผยแพร่ผ่านช่องทางของสำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และ/หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย