บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (ERW) หรือ “ดิ เอราวัณ กรุ๊ป” เป็นผู้ลงทุนและพัฒนาธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น โดยประกอบธุรกิจโรงแรมด้วยมาตรฐานระดับสากลครอบคลุมตั้งแต่ โรงแรมระดับ 5 ดาวถึงโรงแรมระดับบัดเจ็ท และยังมีแผนขยายการลงทุนไปในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.theerawan.com
| 6M68 | 6M67 | 2567 | 2566 |
|---|
| รายได้ | 3,889.00 | 3,962.63 | 8,053.93 | 7,046.29 |
| ค่าใช้จ่าย | 3,118.10 | 3,061.77 | 6,267.79 | 5,773.91 |
| กำไร (ขาดทุน) สุทธิ | 408.39 | 778.39 | 1,280.74 | 742.66 |
| สินทรัพย์ | 25,764.93 | 25,567.65 | 26,246.08 | 23,674.93 |
| หนี้สิน | 16,256.23 | 17,707.02 | 16,754.27 | 17,304.99 |
| ส่วนผู้ถือหุ้น | 8,700.51 | 7,804.73 | 8,711.79 | 6,329.58 |
| กิจกรรมดำเนินงาน | 1,020.39 | 1,362.28 | 2,818.35 | 2,289.09 |
| กิจกรรมลงทุน | -472.90 | -2,131.08 | -2,682.80 | -2,255.75 |
| กิจกรรมจัดหาเงิน | -958.43 | 1,180.58 | 285.69 | -344.29 |
| กำไรต่อหุ้น (บาท) | 0.08 | 0.17 | 0.27 | 0.16 |
| อัตรากำไรขั้นต้น (%) | 57.90 | 57.90 | 58.38 | 56.57 |
| อัตรากำไรสุทธิ (%) | 11.12 | 20.03 | 16.30 | 10.78 |
| D/E Ratio (เท่า) | 1.71 | 2.25 | 1.77 | 2.72 |
| ROE (%) | 11.04 | 16.35 | 17.03 | 12.35 |
| ROA (%) | 6.46 | 7.74 | 8.11 | 5.87 |
บริษัทฯสร้างความสมดุลในพอร์ตการลงทุนผ่านการกระจายความเสี่ยงและเพิ่มความยืดหยุ่นเพื่อสร้างผลตอบแทนให้เติบโตอย่างยั่งยืนโดยบริษัทฯ มี โรงแรมระดับ 5 ดาว ถึงชั้นประหยัด ที่เป็นแบรนด์ระดับโลก
และตั้งอยู่ในจุดหมายยอดนิยมของประเทศไทยและประเทศฟิลิปปินส์
ซึ่งสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลักที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ในขณะที่โรงแรมกลุ่มบัดเจ็ท ภายใต้แบรนด์ ฮ็อป อินน์ สามารถรักษา
ฐานลูกค้าภายในประเทศ ของประเทศไทยและประเทศฟิลิปปินส์ได้
อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ต้น
ปี 2567 นอกเหนือจากกลยุทธ์ด้านสถานที่ตั้ง บริษัทฯสามารถขยาย
ส่วนแบ่งทางการตลาดจากการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพควบคู่ไป
กับกลยุทธ์การปรับปรุงและบำรุงรักษาโรงแรมให้มีความพร้อมในการแข่งขันอยู่เสมอและบริษัทฯยังมองหาโอกาสการลงทุนในประเทศไทย
และต่างประเทศโดยบริษัทฯมีแผนพัฒนาโรงแรมบริเวณรถไฟฟ้า
บีทีเอส สถานีพร้อมพงษ์ที่บริษัทฯได้เข้าทำสัญญาเช่าที่ดินระยะยาว
พร้อมขยายกลุ่ม โรงแรม ฮ็อป อินน์ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่า
บริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนในการลงทุนที่เหมาะสมและรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดทั้งในประเทศไทยและประเทศฟิลิปปินส์ และขยาย
ฐานลูกค้าภายในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก
สามารถติดตามรายละเอียดการดำเนินงานด้านความยั่งยืนได้ที่ https://www.theerawan.com/th/sustainability/home
ผลประกอบการของบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“บริษัทฯ”) ในไตรมาส 2/68 ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทยในอัตรา ร้อยละ12 จากปีก่อนหน้า โดยเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ปรับตัวลดลงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 จากความกังวลด้านความปลอดภัย และผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาเมื่อเดือน มีนาคม 2568 ส่งผลให้มีการชะลอตัวของการจองห้องพักล่วงหน้า โดยผลประกอบการก่อนรายการพิเศษ 6 เดือนแรกของปี 2568 เปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า บริษัทฯมีรายได้รวมเท่ากับ 3,890 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 และบันทึกกำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีเงินได้และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เท่ากับ 1,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 และกำไรสุทธิจำนวน 408 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1 เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์การปรับอัตราค่าห้องพักให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพื่อรักษาระดับอัตราการเข้าพัก ขยายฐานลูกค้าใหม่ อาทิ กลุ่มตะวันออกกลาง และช่องทางการตลาดที่หลากหลาย รวมถึงการรักษาต้นทุนการดำเนินงานอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยได้รับผลกระทบเพื่อรักษาอัตราการทำกำไร ทั้งนี้บริษัทฯยังคงมีสถานะทางการเงินที่มั่นคงและพร้อมรองรับกลยุทธ์การสร้างความเติบโตในธุรกิจในอนาคตอย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจโรงแรม (เปรียบเทียบ 6 เดือนแรกของปี 2568 และปี 2567)
1.1 กลุ่มโรงแรมระดับ 5 ดาวจนถึงชั้นประหยัด
มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักลดลง ร้อยละ 4 จากอัตราการเข้าพักที่ลดลง ร้อยละ 4 และ ค่าห้องพักเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1 และมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 2,850 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4 และรายได้จากอาหารและเครื่องดื่มเป็นจำนวน 693 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 และกำไรระดับ EBITDA 967 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4
1.2 กลุ่มโรงแรม ฮ็อป อินน์ ประเทศไทย มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 542 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 และกำไรระดับ EBITDA 254 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15
1.3 กลุ่มโรงแรม ฮ็อป อินน์ ประเทศฟิลิปปินส์ มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 235 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 โดยผลการดำเนินงานในสกุลเงินท้องถิ่นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 26 และกำไรระดับ EBITDA อยู่ที่ 95 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 14
1.4 กลุ่มโรงแรม ฮ็อป อินน์ ประเทศญี่ปุ่น มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 176 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 54 โดยมีผลการดำเนินงานในสกุลเงินท้องถิ่นเพิ่มขึ้น ร้อยละ 63 และกำไรระดับ EBITDA 94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 110
ธุรกิจการให้เช่าพื้นที่และบริหารอาคาร
6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 67 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4 จากช่วงเดียวกันของปี 2567 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการสิ้นสุดการให้บริการบริหารอาคาร เพลินจิต เซ็นเตอร์ แก่กองทุนรวม ในวันที่ 23 มกราคม 2568
สามารถติดตามรายละเอียดผลการดำเนินงานบริษัทได้ที่ https://www.theerawan.com/th/investor-relations/document/quarterly-results
บริษัทฯ เปิดให้บริการโรงแรม ฮ็อป อินน์ 3 สาขา ในประเทศไทย ได้แก่ ระนอง ขอนแก่น และสระบุรี รวมจำนวนห้องพัก 219 ห้อง ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 2/68 บริษัทฯ มีโรงแรมรวม 99 แห่ง และจำนวนห้องพัก 12,018 ห้อง
สามารถติดตามรายละเอียดการบริหารจัดการความเสี่ยงของบริษัทได้ที่ https://www.theerawan.com/th/corporate-governance/risk-management-and-internal-control
สามารถติดตามรายละเอียดรางวัลและความสำเร็จที่ผ่านมาของบริษัทของบริษัทได้ที่ https://www.theerawan.com/th/our-pride
| ณ วันที่ 30/06/68 | ERW | TOURISM | SET |
|---|---|---|---|
| P/E (เท่า) | 8.57 | 17.69 | 14.76 |
| P/BV (เท่า) | 1.14 | 1.13 | 1.03 |
| Dividend yield (%) | 4.25 | 2.53 | 4.39 |
| 30/06/68 | 30/12/67 | 28/12/66 | |
|---|---|---|---|
| Market Cap (ลบ.) | 10,360.29 | 18,668.07 | 23,790.69 |
| ราคา (บาท/หุ้น) | 2.12 | 3.82 | 5.25 |
| P/E (เท่า) | 8.57 | 16.72 | 30.96 |
| P/BV (เท่า) | 1.14 | 2.40 | 3.81 |