บริษัทประกอบธุรกิจโดยการลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยปัจจุบันลงทุนในธุรกิจร้านขายยา จำหน่ายยา เวชภัณฑ์ เวชสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อุปกรณ์การแพทย์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ และธุรกิจคิดค้น และพัฒนาร่วมกับทีมวิจัยภายนอก รวมทั้งว่าจ้างผู้ผลิต เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ
| 6M68 | 6M67 | 2567 | 2566 |
|---|
| รายได้ | 1,138.87 | 966.91 | 2,017.89 | 1,659.31 |
| ค่าใช้จ่าย | 1,087.92 | 926.54 | 1,916.05 | 1,558.59 |
| กำไร (ขาดทุน) สุทธิ | 37.26 | 30.30 | 78.26 | 74.68 |
| สินทรัพย์ | 1,490.51 | 1,429.58 | 1,499.06 | 1,382.35 |
| หนี้สิน | 521.73 | 472.03 | 493.23 | 414.29 |
| ส่วนผู้ถือหุ้น | 968.78 | 957.55 | 1,005.82 | 968.05 |
| กิจกรรมดำเนินงาน | 83.59 | 37.46 | 88.76 | 91.26 |
| กิจกรรมลงทุน | -119.62 | -165.20 | -171.89 | 177.28 |
| กิจกรรมจัดหาเงิน | -99.09 | -60.16 | -83.01 | -80.08 |
| กำไรต่อหุ้น (บาท) | 0.14 | 0.11 | 0.29 | 0.27 |
| อัตรากำไรขั้นต้น (%) | 23.74 | 22.43 | 23.51 | 23.06 |
| อัตรากำไรสุทธิ (%) | 3.27 | 3.13 | 3.88 | 4.50 |
| D/E Ratio (เท่า) | 0.54 | 0.49 | 0.49 | 0.43 |
| ROE (%) | 8.85 | 8.11 | 7.93 | 7.82 |
| ROA (%) | 8.01 | 7.42 | 7.08 | 7.50 |
กลุ่มบริษัทมีแผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีมูลค่าทางการตลาดสูง โดยมีแผนจะเปิดสาขา 14 สาขาในปี 2568 นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มรายการสินค้านวัตกรรมใหม่ในแบรนด์ของตัวเอง และเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายออกนอกเครือบริษัท
- ยึดนโยบายประกอบกิจการด้วยความเป็นธรรม เคารพกฎหมาย และมีความโปร่งใส
- มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัด
- ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับแรงงานและสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานตามเกณฑ์สากล
- ให้ความสำคัญในการรับผิดชอบต่อลูกค้า โดยคัดเลือกสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ การให้ข่าวสาร ข้อมูลที่ถูกต้อง และทันต่อเหตุการณ์แก่ลูกค้า และรักษาความลับของลูกค้า
- มีนโยบายรณรงค์เรื่องการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติก และลังกระดาษ นำระบบ ERP เข้ามาใช้ เพื่อลดปริมาณการใช้กระดาษ และนำร่องการใช้ระบบ e-Tax กับคู่ค้าที่มีความพร้อม
- เล็งเห็นความสำคัญของชุมชนและสังคมที่เข้มแข็ง มีการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเข้าร่วมส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ หลายอย่าง ทั้งด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา และด้านพุทธศาสนา
- เข้าร่วมโครงการ "แผงยาช่วยโลก" เพื่อส่งเสริมการจัดการขยะอย่างยั่งยืน โดยร้านขายยาของกลุ่มบริษัทเป็นจุดรับขยะแผงฟอยล์ เพื่อนำไปสู่กระบวนการสร้างประโยชน์และเพิ่มมูลค่าขยะเหลือทิ้ง
- ร่วมกับ iRedcross จัดทำโครงการ "พากันสน เพื่อพาร์กินสัน" เพื่อสนับสนุนการค้นหาและดูแลผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่เหมาะสมและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ลงทุนในธุรกิจขายยาและธุรกิจคิดค้นพัฒนาร่วมกับทีมวิจัยภายนอกเพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อสุขภาพ เป็นเจ้าของแบรนด์ร้านขายยา 3 แบรนด์ มี 67 สาขาในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์นวัตกรรม 3 แบรนด์ ได้แก่ “ไพร์ม” ในประเภทผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “เบซูโตะ" ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทดูแลสุขภาพอนามัย และ "คิว" ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ จากนวัตกรรมสมุนไพร
ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2568 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายรวมทั้งสิ้น 1,118.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.02 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้หลักยังคงมาจากการขายปลีก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 99.10 ของรายได้ทั้งหมด
เมื่อพิจารณารายได้ตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ พบว่าทุกกลุ่มมีการเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับการใช้ภายนอกร่างกายมีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ร้อยละ 31.84 รองลงมาคือกลุ่มสินค้าบริโภคซึ่งเติบโตที่ร้อยละ 18.40
นอกจากนี้ รายได้อื่นของบริษัทเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.92 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการขยายจำนวนสาขาและพื้นที่ขาย ส่งผลให้รายได้จากค่าบริการเพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับการใช้ภายนอกร่างกายที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
- ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 กลุ่มบริษัทมีร้านขายยาดำเนินการรวม 67 สาขา โดยเปิดใหม่ 4 สาขา และปิดสาขา “ไวตามินคลับ” ที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้าเมื่อสิ้นเดือนเมษายน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างธุรกิจในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
- ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2568 กลุ่มบริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 SKUs ได้แก่ “เฮิร์บเบิล เม้าท์ สเปรย์ ตราคิว” (Herbal Mouth Spray Q Brand) “เฮิร์บเบิล นาเซิล สเปรย์ ตราคิว” (Herbal Nasal Spray Q Brand) รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ไพรม โพรไบโอ 14 พลัส 30 เอส” (Prime Probio 14 Plus 30s)
- บริษัท เฮลทิเนส จำกัด นำผลิตภัณฑ์แบรนด์ “คิว” ร่วมแสดงในงาน World Expo Osaka 2025 ที่ประเทศญี่ปุ่น (เมษายน 2568) และงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 20 ณ กรุงเทพมหานคร (2–6 กรกฎาคม 2568) เพื่อสร้างการรับรู้และขยายตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ
- กลุ่มบริษัทสั่งซื้อสินค้าจากผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ 2 รายตั้งแต่เปิดร้านขายยาและดำเนินธุรกิจร่วมกันกว่า 30 ปีเป็นไปด้วยดีมาโดยตลอด กลุ่มบริษัทมีนโยบายสรรหาและคัดเลือกผู้ค้ารายใหม่อย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มช่องทางในการจัดหาสินค้าให้เพียงพออย่างต่อเนื่อง
- ความเสี่ยงจากการแข่งขัน กลุ่มบริษัทมุ่งเน้นการเปิดสาขาในทำเลที่เข้าถึงลูกค้าอย่างทั่วถึงภายในกรุงเทพมหานครและการจัดให้มีเภสัชกรอยู่ประจำทุกสาขาทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ถึงคุณภาพในการบริการ
- กลุ่มบริษัทเป็นแหล่งฝึกงานของนิสิตและนักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ จากสถานศึกษาชั้นนำต่าง ๆ ทำให้ร้านขายยาของบริษัทเป็นที่รู้จักและยอมรับในหมู่บุคลากรทางเภสัชกรรมอย่างกว้างขวางช่วยลดความเสี่ยงด้านการขาดแคลนบุคลากรทางเภสัชกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ
- รางวัลเหรียญเงิน นวัตกรรม Cell Matrix Technology ของ Prime VISION - INVENTION GENEVA EVALUATION DAYS; 28 มี.ค. 2565
- รางวัลเหรียญทอง นวัตกรรม Prime MOVX2 - 2022 Japan Design, Idea & Invention Expo; 1-3 ก.ค. 2565
- รางวัลเหรียญทอง นวัตกรรม Prime KIN - 2024 Japan Design, Idea & Invention Expo; 5-7 ก.ค. 2567
- รางวัลเหรียญทอง นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ Prime Bioenhancz - 2024 PRIX EIFFEL, Idea & Invention Expo; 12 พ.ย. 2567
- รางวัลพิเศษ นวัตกรรม Prime Bioenhancz - Innovation Initiative Co-operative Inc. (CANADA); 12-13 พ.ย. 2567
- รางวัลเหรียญเงิน นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ Q Herbal Mouth Spray - 2024 PRIX EIFFEL, Idea & Invention Expo; 12-13 พ.ย. 2567
| ณ วันที่ 30/06/68 | HL | SERVICE | mai |
|---|---|---|---|
| P/E (เท่า) | 23.22 | 63.41 | 60.02 |
| P/BV (เท่า) | 1.81 | 1.59 | 1.15 |
| Dividend yield (%) | 2.49 | 3.34 | 3.94 |
| 30/06/68 | 30/12/67 | 28/12/66 | |
|---|---|---|---|
| Market Cap (ลบ.) | 1,890.40 | 2,774.40 | 2,828.80 |
| ราคา (บาท/หุ้น) | 6.95 | 10.20 | 10.40 |
| P/E (เท่า) | 23.22 | 36.14 | 35.81 |
| P/BV (เท่า) | 1.81 | 2.85 | 3.02 |