SFT : บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
6M/2568 (ม.ค. - มิ.ย. 2568)
ภาพรวมธุรกิจ

การประกอบธุรกิจของชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SFT) (‘บริษัทฯ’) แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ 1.ผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูป สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามระบบการพิมพ์ได้แก่ ระบบการพิมพ์กราเวียร์ และระบบการพิมพ์ดิจิตอล 2. บรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนตัว (Flexible Packaging) 3.ผลิตภัณฑ์อื่น ได้แก่ แม่พิมพ์ (Printing Cylinder)

งบการเงิน
6M68 6M67 2567 2566
งบกำไรขาดทุน (ลบ.)
รายได้   510.16 984.10 925.76
ค่าใช้จ่าย   483.66 945.67 878.62
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ   18.12 24.14 30.22
งบแสดงฐานะทางการเงิน (ลบ.)
สินทรัพย์   1,112.52 1,159.20 1,101.98
หนี้สิน   358.26 398.93 345.82
ส่วนผู้ถือหุ้น   754.25 760.27 756.16
งบกระแสเงินสด (ลบ.)
กิจกรรมดำเนินงาน   57.65 99.61 77.03
กิจกรรมลงทุน   -9.20 -78.29 -137.10
กิจกรรมจัดหาเงิน   -41.96 -16.63 45.12
อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ
กำไรต่อหุ้น (บาท)   0.04 0.05 0.07
อัตรากำไรขั้นต้น (%)   17.51 16.82 18.02
อัตรากำไรสุทธิ (%)   3.55 2.45 3.26
D/E Ratio (เท่า)   0.47 0.52 0.46
ROE (%)   4.24 3.18 4.00
ROA (%)   4.45 3.40 4.39
Green Packaging
  • เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 บริษัทฯได้รับการรับรองจากสมาคมผู้รีไซเคิลพลาสติก (The Association of Plastic Recyclers: APR) ให้กับผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปภายใต้ชื่อ Green Shrink ซึ่งเป็นชื่อของนวัตกรรมฉลากฟิล์มหดรัดรูปของบริษัทฯ ทั้งหมด 4 ประเภท
  • บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนตัวโดยการออกผลิตภัณฑ์ Mono Material Pouch ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green packaging) สามารถรีไซเคิลได้ 100% เพื่อรองรับแนวโน้มเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy) ทั้งในประเทศและทั่วโลก
  • ในปี 2567 บริษัทฯ มีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ rPET (อาร์-เพ็ท) ฟิล์มที่มีส่วนผสมของพลาสติกที่ผ่านการใช้งานโดยผู้บริโภคมาแล้ว (PCR) และ POF (Polyolefin Shrink Film) ที่หลังจากการใช้งานสามารถนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลพร้อมกับขวด PE ได้ โดยไม่ต้องแยกฉลากกับขวด
แผนธุรกิจ

แผนการเติบโตของยอดขาย

SFT มองเห็นโอกาสใหม่ๆพร้อมมุ่งมั่นที่จะคว้าไว้อย่างแน่วแน่และมีเป้าหมายในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ชั้นแนวหน้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยโซลูชันที่ยังยื่น ด้วยการนำเสนอทางเลือกที่รักษ์โลกและพรีเมียม เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและติดตั้งระบบการพิมพ์แบบเฟล็กโซ ขยายฐานลูกค้าครอบคลุมกลุ่ม SMEs

แผนด้านการเงิน

บริษัทฯ มีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจที่ดี มีอัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ในอัตราที่ต่ำ และบริษัทฯ ได้มีการจัดหาแหล่งเงินทุนที่เพียงพอต่อการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต โดยคำนึงถึงต้นทุนทางการเงินต่ำสุด

แผนด้านการลงทุน

หลังจากที่บริษัทได้มีการลงทุนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เข้า IPO ในเดือน ต.ค 2563 แผนการลงทุนของบริษัทในระยะสั้นเริ่มชลอตัวลง โดยเน้นสร้างผลผลิตและรายได้จากทรัพย์สินที่ได้ลงทุนไปให้เกิดประโยชน์สูงสุด

Highlight ที่น่าสนใจของบริษัท
  • SFT ได้การรับรอง 3 ปี ในการเป็นสมากชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชน
  • SFT เร่งพัฒนาโซลูชันบรรจุภัณฑ์อ่อนตัว ตอบรับเมกะเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ ทั้งซองไดคัท (Die-Cut Pouch) ซองจุก 2 หัว (Double Spout Pouch) ซองกระดาษ (Paper Pouch)
  • SFT คว้า 3 รางวัล ตอกย้ำความเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของลูกค้า
  • ร่วมจัดแสดงสินค้า งาน THAIFEX-Anuga Asia 2025 และ COSMO PROF CBE 2025
การวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน
สรุปผลการดำเนินงาน

ในงวด 6M/2568 SFT สามารถสร้างรายได้จากการดำเนินงานรวมทั้งสิ้น 540.9 ล้านบาท เติบโตขึ้น 34.7 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 6.8% ในขณะที่กำไรสุทธิของบริษัทฯ มีมูลค่า 34.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.4 ล้านบาท หรือ 90.3% เมื่อเทียบกับงวด 6M/2567 ตามลำดับ โดยปัจจัยหลักที่ผลักดันการเติบโตมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในทุกระบบการพิมพ์ ทั้งฉลากฟิล์มหดรัดรูปและบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนตัว อีกทั้ง SFT ยังควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลประกอบการโดยรวมมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ยังเดินหน้ายกระดับประสิทธิภาพการผลิตผ่านการลงทุนในเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การเพิ่มสายการผลิตระบบเฟล็กโซ่ (FLEXO) เพื่อรองรับความต้องการเฉพาะของกลุ่มลูกค้า SMEs และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบกราเวียร์ ด้วยการกระจายงานพิมพ์ให้เหมาะสมกับขนาดงาน ตลอดจนบริษัทยังให้ความสำคัญกับการดำเนินงานอย่างยั่งยืนในทุกมิติอีกด้วย

พัฒนาการที่สำคัญ
  • 2550 บริษัทจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2550 เพื่อประกอบธุรกิจผลิตให้บริการทางด้านฉลากสินค้าประเภทฟิล์มหดรัดรูป
  • 2551 บริษัทเริ่มใช้ระบบการพิมพ์กราเวียร์ 9 สี และมีการลงทุนเครื่องจักรเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
  • 2557 บริษัทขยายธุรกิจการพิมพ์ โดยเริ่มนำระบบการพิมพ์ดิจิตอลเข้ามาใช้ และซื้อเครื่องพิมพ์กราเวียร์ 10 สีเพิ่มเติม
  • 2563 บริษัทได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI)
  • 2564 บริษัทได้ลงทุนเครื่องพิมพ์เพิ่ม และก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2
  • 2565 ก่อสร้างโรงงานแห่ง 2 พร้อมขยายสินค้าใหม่ Flexible Packaging
  • 2567 บริษัทขยายธุรกิจการพิมพ์ โดยเพิ่มระบบเฟล็กโซ่ (FLEXO)
แนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงที่สำคัญ
  • ความเสี่ยงจากการจัดหาวัตถุดิบ และความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบ: หลักการสั่งซื้อวัตถุดิบจะเป็นแบบกำหนดราคาล่วงหน้า ซึ่งสามารถลดความผันผวนในเรื่องของต้นทุนได้ในระยะเวลาหนึ่งๆ ซึ่งจะช่วยเรื่องการขาดแคลนวัตถุดิบของบริษัท และรักษาอัตราการเติบโตของอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทได้
  • ความเสี่ยงจากความเสื่อมสภาพของวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูป: บริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารสินค้าคงคลังในรูปแบบต่างๆ ด้วยระบบที่เป็นมาตรฐานสากล ซึ่งรวมไปถึงการควบคุมคุณภาพการขนส่งอีกด้วย
รางวัลและความสำเร็จที่ผ่านมาของบริษัท
  • 2560 ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001: 2015
  • 2563 ได้รับรางวัล Digital Print Excellence Award จาก HP Inc.
  • 2563 ได้รับรางวัล Corporate Excellence จาก Asia Pacific Enterprise Awards (APEA) 2020
  • 2564 ได้รับรางวัล 2 Winners Awards (Shrink Sleeves) จาก HP Inkspiration Awards 2021
  • 2564 ได้การรับรองมาตรฐาน GHP HACCP
  • 2564 ได้รับรางวัล Leading Manufacturer and Distributor of Shrink Sleeve Labels Thailand 2021 จาก World Business Outlook Awards 2021
  • 2565 ได้รับการรับรองจาก The Association of Plastic Recyclers: APR ให้กับผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปภายใต้ชื่อ Green Shrink 
  • 2565 ได้รับรางวัล "องค์กรต้นแบบความยั่งยืนในตลาดทุนไทย ด้านสนับสนุนคนพิการ" ระดับดีเด่นประจำปี 2565 จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
  • 2566 ได้รับใบรับรองระบบความปลอดภัยของอาหาร (BRC)
  • 2567 ผ่านการประเมินและได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ SEDEX
โครงสร้างรายได้ตามประเภทธุรกิจ
รายได้จากฉลากฟิล์มหดรัดรูป 92% รายได้จากบรรจุภัณฑ์อ่อนตัว 5% อื่นๆ 3%
ข้อมูลหลักทรัพย์
mai / INDUS
ราคาปิด SFT mai index 5.00 3.00 1.00 377.00 311.00 245.00 179.00 1-7-67 30-9-67 27-12-67 26-3-68 30-6-68
ณ วันที่ 30/06/68 SFT INDUS mai
P/E (เท่า) 27.97 17.18 60.02
P/BV (เท่า) 1.33 0.74 1.15
Dividend yield (%) 1.44 5.88 3.94
30/06/68 30/12/67 28/12/66
Market Cap (ลบ.) 1,038.40 1,179.20 1,795.20
ราคา (บาท/หุ้น) 2.36 2.68 4.08
P/E (เท่า) 27.97 51.04 73.14
P/BV (เท่า) 1.33 1.57 2.39
CG Report:
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ณ วันที่ 18/03/2568
MR. Sung Cheong Tsoi (23.64%)
น.ส. จุไรรัตน์ พงษ์สอน (17.50%)
นาง สุกัญญา ทอย (14.55%)
นาย สมิทธ์ ทอย (7.27%)
นาง จารุณี ชินวงศ์วรกุล (6.94%)
อื่น ๆ (30.10%)
ช่องทางการติดต่อบริษัท
http://www.shrinkflexthailand.com
sft-ir@shrinkflexthailand.com
0639635962
88/8 ม.12 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา 24130
ข้อมูลการซื้อขายอื่น ๆ : https://www.settrade.com/C04_01_stock_quote_p1.jsp?txtSymbol=SFT
หมายเหตุ : เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทจดทะเบียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนแก่ผู้ลงทุนเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น บริษัทจดทะเบียนไม่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนใด ๆ ในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน โดยก่อนการตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและควรขอรับคำปรึกษาจากผู้ประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายหรือสูญหายจากการนำข้อมูลที่ปรากฏนี้ไปใช้ในทุกกรณี และบริษัทจดทะเบียนสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า รวมทั้งห้ามไม่ให้ผู้ใดนำเอกสารหรือข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ไปทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากบริษัทจดทะเบียนก่อน หากผู้ลงทุนมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลของบริษัท สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากรายงานหรือสารสนเทศที่บริษัทได้เผยแพร่ผ่านช่องทางของสำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และ/หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย